คู่สามีภรรยา ยอมเป็นหนี้เพิ่มอีก 2 ล้าน เพื่อรักษาสุนัขบำบัด วัย 9 ปี ที่เป็นโรคมะเร็ง เผยตลอดชีวิตมัน ช่วยเหลือคนมามาก ถึงเวลาตอบแทน
โจดี้ เอ็กเบิร์ก คือหญิงชาวอเมริกัน วัย 57 ปี จากรัฐนิวยอร์ก ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง แน่นอนว่าโรคร้ายที่เธอเป็นได้บั่นทอนจิตใจของเธออย่างมาก แต่เธอก็สามารถผ่านพ้นมาได้ ซึ่งนอกจากเธอจะมีครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างแล้ว ยังมีเพื่อนสี่ขาที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเธอ นั่นก็คือเหล่าสุนัขบำบัด พันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ 4 ตัว หนึ่งในนั้นคือ แฟรงกี้ อายุ 9 ปี ซึ่งโจดี้ผูกพันมากเป็นพิเศษ เพราะมันเองก็ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเหมือน ๆ กับเธอ และความรัก ความผูกพัน ความห่วงใยที่โจดี้มีให้กับแฟรงกี้ ทำให้เธอยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักษามันให้หาย แม้ว่าสถานะทางการเงินของเธอจะไม่ดี และต้องเป็นหนี้หัวโตก็ตาม
เรื่องราวของเจ้าตูบแฟรงกี้ และโจดี้ ถูกหยิบยกมานำเสนอ โดยเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561 โดยโจดี้เปิดเผยว่า ในฐานะสุนัขบำบัด แฟรงกี้ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยมาแล้วมากมาย มันคอยอยู่เคียงข้างพวกเขาในช่วงเวลาที่เลวร้าย และมอบเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม รวมทั้งความสุขให้แก่พวกเขาเหล่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือเธอ มันจึงไม่ได้เป็นแค่สุนัข แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับโจดี้ จนกระทั่งในปี 2558 แฟรงกี้ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดมัลติเซนทริก (Multicentric Lymphoma) และสัตวแพทย์บอกว่ามันจะมีชีวิตอยู่ได้แค่เพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น ข่าวร้ายนี้สร้างความเจ็บปวดให้แก่โจดี้และครอบครัวอย่างมาก และเธอก็ได้ตัดสินใจต่อเวลาชีวิตให้กับมัน
"แฟรงกี้และพี่น้องทั้ง 3 ตัวของมัน ได้มอบชีวิตใหม่ให้กับฉัน เจ้าสี่ขาเหล่านี้ช่วยให้ฉันก้าวผ่านโรคมะเร็ง อาการบาดเจ็บ และการผ่าตัดมากมายไปได้ หมาน้อยเหล่านี้ไม่ยอมให้โรคมะเร็งกลืนกินชีวิตฉัน ฉันเองก็ไม่สามารถปล่อยให้โรคนี้คร่าชีวิตมันโดยไม่ช่วย ถ้ามันจำเป็น หรือถึงจุดอับจนจริง ๆ ฉันสามารถยอมขายรถหรือขายบ้านเลยก็ได้ เพื่อแลกกับการที่แฟรงกี้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป" โจดี้ กล่าว
โจดี้และเพื่อน ๆ ของเธอที่ The Empire State Snow Dog Club ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อฝึกฝนสุนัขบำบัด เพื่อช่วยเหลือผู้คนโดยเฉพาะ สามารถระดมทุนหาเงินค่ารักษาพยาบาลแฟรงกี้ ได้เป็นจำนวน 16,000 ปอนด์ หรือประมาณ 689,000 บาท เงินจำนวนนี้ช่วยให้แฟรงกี้รอดพ้นจากโรคร้ายมาได้ แต่แล้วในปีต่อมา มะเร็งชนิดเดิมก็ย้อนกลับมาหาแฟรงกี้อีกครั้ง ครั้งนี้เกิดขึ้นที่หัวของมัน และมันก็จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่โจดี้เองก็ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองมากนัก อีกทั้งไม่มีเงินเก็บก้อนใหญ่ติดตัว เธอได้ปรึกษาเรื่องนี้กับ บรูซ สามี วัย 60 ปี ของเธอ และมันนำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อช่วยแฟรงกี้
บรูซ และโจดี้ ได้ขายทรัพย์สินต่าง ๆ ที่มี ทั้งเครื่องประดับ และห้องพัก เพื่อหาเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลแฟรงกี้ เพราะการรักษาสุนัขป่วยมีค่าใช้จ่ายที่สูง เฉพาะการให้คีโมอย่างเดียว ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 475 ปอนด์ หรือมากกว่า 200,000 บาท ต่อ 2 สัปดาห์ หรือประมาณวันละ 14,300 บาท ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจหาเงินเพิ่ม ด้วยการกู้เงิน 37,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท และใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่ายเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผลคือ ทั้งคู่มีหนี้ก้อนใหญ่ รวมทั้งหมดประมาณ 53,000 ปอนด์ หรือกว่า 2.28 ล้านบาท พวกเขาตั้งใจว่าจะหาเงินเพิ่มอีก ถึงขั้นคิดจะขายบ้านของตัวเองเพื่อเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้ว การรักษาก็ไม่ประสบความสำเร็จ แฟรงกี้ไม่สามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อไปได้อีก และในเดือนพฤษภาคม 2560 แฟรงกี้ก็จากโลกนี้ไป
"ตอนที่แฟรงกี้ยังป่วย และยังไม่จากฉันไป ฉันบอกมันว่า หนูป่วยแค่ตัวนะลูก แต่จิตใจของหนูไม่ได้ป่วยไปด้วย ฉันพูดแบบนี้ เพื่อให้มันมีกำลังใจสู้ต่อ และฮึดอยู่กับฉันต่อไป จนถึงตอนนี้ ฉันยังคงรู้สึกได้ว่าแฟรงกี้ไม่ได้จากไปไหน มันยังคงอยู่กับเราในบ้านหลังนี้ และฉันก็อธิษฐานกับมันนะ ขอให้ส่งเจ้าตูบมาเป็นเพื่อนเราเพิ่มอีก และก็มีครอบครัวติดต่อมาให้เรา บอกว่ามีฮัสกี้กำลังมองหาบ้านใหม่ ฉันรับรู้ได้เลยว่าแฟรงกี้ส่งเจ้าหนูตัวนี้มาให้เรา เพราะมันมีขนสีน้ำตาลแดง และมีตาสีฟ้า เหมือนกับแฟรงกี้" โจดี้ กล่าว
หลังจากที่แฟรงกี้จากไป โจดี้ได้สั่งทำรูปปั้นขนาดย่อมเป็นรูปแฟรงกี้ แล้วนำมาตั้งเอาไว้ในบ้าน เพื่อเป็นตัวแทนของแฟรงกี้ ทุกวันนี้เธอและสามียังคงต้องติดตามใช้หนี้ก้อนใหญ่ที่ได้ไปกู้และรูดบัตรเครดิตเอาไว้ แต่โจดี้ไม่เคยเสียใจเลยที่ตัดสินใจใช้เงินก้อนนี้เพื่อช่วยแฟรงกี้ แม้ว่ามันจะจากไปก็ตาม เพราะเจ้าตูบแสนดีตัวนี้ได้ช่วยเหลือเธอ และผู้ป่วยคนอื่น ๆ มาแล้วมากมาย จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของมัน
![กู้เงินรักษาหมา]( "กู้เงินรักษาหมา")
โจดี้ เอ็กเบิร์ก คือหญิงชาวอเมริกัน วัย 57 ปี จากรัฐนิวยอร์ก ผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็ง แน่นอนว่าโรคร้ายที่เธอเป็นได้บั่นทอนจิตใจของเธออย่างมาก แต่เธอก็สามารถผ่านพ้นมาได้ ซึ่งนอกจากเธอจะมีครอบครัวที่คอยอยู่เคียงข้างแล้ว ยังมีเพื่อนสี่ขาที่คอยอยู่เป็นเพื่อนเธอ นั่นก็คือเหล่าสุนัขบำบัด พันธุ์ไซบีเรียน ฮัสกี้ 4 ตัว หนึ่งในนั้นคือ แฟรงกี้ อายุ 9 ปี ซึ่งโจดี้ผูกพันมากเป็นพิเศษ เพราะมันเองก็ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งเหมือน ๆ กับเธอ และความรัก ความผูกพัน ความห่วงใยที่โจดี้มีให้กับแฟรงกี้ ทำให้เธอยอมทุ่มเททุกอย่างเพื่อรักษามันให้หาย แม้ว่าสถานะทางการเงินของเธอจะไม่ดี และต้องเป็นหนี้หัวโตก็ตาม
เรื่องราวของเจ้าตูบแฟรงกี้ และโจดี้ ถูกหยิบยกมานำเสนอ โดยเว็บไซต์เมโทร เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2561 โดยโจดี้เปิดเผยว่า ในฐานะสุนัขบำบัด แฟรงกี้ได้ช่วยเหลือผู้ป่วยมาแล้วมากมาย มันคอยอยู่เคียงข้างพวกเขาในช่วงเวลาที่เลวร้าย และมอบเสียงหัวเราะ รอยยิ้ม รวมทั้งความสุขให้แก่พวกเขาเหล่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือเธอ มันจึงไม่ได้เป็นแค่สุนัข แต่เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับโจดี้ จนกระทั่งในปี 2558 แฟรงกี้ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดมัลติเซนทริก (Multicentric Lymphoma) และสัตวแพทย์บอกว่ามันจะมีชีวิตอยู่ได้แค่เพียง 4 สัปดาห์เท่านั้น ข่าวร้ายนี้สร้างความเจ็บปวดให้แก่โจดี้และครอบครัวอย่างมาก และเธอก็ได้ตัดสินใจต่อเวลาชีวิตให้กับมัน
"แฟรงกี้และพี่น้องทั้ง 3 ตัวของมัน ได้มอบชีวิตใหม่ให้กับฉัน เจ้าสี่ขาเหล่านี้ช่วยให้ฉันก้าวผ่านโรคมะเร็ง อาการบาดเจ็บ และการผ่าตัดมากมายไปได้ หมาน้อยเหล่านี้ไม่ยอมให้โรคมะเร็งกลืนกินชีวิตฉัน ฉันเองก็ไม่สามารถปล่อยให้โรคนี้คร่าชีวิตมันโดยไม่ช่วย ถ้ามันจำเป็น หรือถึงจุดอับจนจริง ๆ ฉันสามารถยอมขายรถหรือขายบ้านเลยก็ได้ เพื่อแลกกับการที่แฟรงกี้ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป" โจดี้ กล่าว
โจดี้และเพื่อน ๆ ของเธอที่ The Empire State Snow Dog Club ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ก่อตั้งขึ้นมาเพื่อฝึกฝนสุนัขบำบัด เพื่อช่วยเหลือผู้คนโดยเฉพาะ สามารถระดมทุนหาเงินค่ารักษาพยาบาลแฟรงกี้ ได้เป็นจำนวน 16,000 ปอนด์ หรือประมาณ 689,000 บาท เงินจำนวนนี้ช่วยให้แฟรงกี้รอดพ้นจากโรคร้ายมาได้ แต่แล้วในปีต่อมา มะเร็งชนิดเดิมก็ย้อนกลับมาหาแฟรงกี้อีกครั้ง ครั้งนี้เกิดขึ้นที่หัวของมัน และมันก็จำเป็นต้องได้รับการรักษา แต่โจดี้เองก็ไม่ได้ร่ำรวยเงินทองมากนัก อีกทั้งไม่มีเงินเก็บก้อนใหญ่ติดตัว เธอได้ปรึกษาเรื่องนี้กับ บรูซ สามี วัย 60 ปี ของเธอ และมันนำไปสู่การตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อช่วยแฟรงกี้
บรูซ และโจดี้ ได้ขายทรัพย์สินต่าง ๆ ที่มี ทั้งเครื่องประดับ และห้องพัก เพื่อหาเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลแฟรงกี้ เพราะการรักษาสุนัขป่วยมีค่าใช้จ่ายที่สูง เฉพาะการให้คีโมอย่างเดียว ก็ตกอยู่ที่ประมาณ 475 ปอนด์ หรือมากกว่า 200,000 บาท ต่อ 2 สัปดาห์ หรือประมาณวันละ 14,300 บาท ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงตัดสินใจหาเงินเพิ่ม ด้วยการกู้เงิน 37,000 ปอนด์ หรือประมาณ 1.6 ล้านบาท และใช้บัตรเครดิตในการใช้จ่ายเรื่องนี้โดยเฉพาะ ผลคือ ทั้งคู่มีหนี้ก้อนใหญ่ รวมทั้งหมดประมาณ 53,000 ปอนด์ หรือกว่า 2.28 ล้านบาท พวกเขาตั้งใจว่าจะหาเงินเพิ่มอีก ถึงขั้นคิดจะขายบ้านของตัวเองเพื่อเรื่องนี้ แต่สุดท้ายแล้ว การรักษาก็ไม่ประสบความสำเร็จ แฟรงกี้ไม่สามารถต่อสู้กับโรคมะเร็งต่อไปได้อีก และในเดือนพฤษภาคม 2560 แฟรงกี้ก็จากโลกนี้ไป
"ตอนที่แฟรงกี้ยังป่วย และยังไม่จากฉันไป ฉันบอกมันว่า หนูป่วยแค่ตัวนะลูก แต่จิตใจของหนูไม่ได้ป่วยไปด้วย ฉันพูดแบบนี้ เพื่อให้มันมีกำลังใจสู้ต่อ และฮึดอยู่กับฉันต่อไป จนถึงตอนนี้ ฉันยังคงรู้สึกได้ว่าแฟรงกี้ไม่ได้จากไปไหน มันยังคงอยู่กับเราในบ้านหลังนี้ และฉันก็อธิษฐานกับมันนะ ขอให้ส่งเจ้าตูบมาเป็นเพื่อนเราเพิ่มอีก และก็มีครอบครัวติดต่อมาให้เรา บอกว่ามีฮัสกี้กำลังมองหาบ้านใหม่ ฉันรับรู้ได้เลยว่าแฟรงกี้ส่งเจ้าหนูตัวนี้มาให้เรา เพราะมันมีขนสีน้ำตาลแดง และมีตาสีฟ้า เหมือนกับแฟรงกี้" โจดี้ กล่าว
หลังจากที่แฟรงกี้จากไป โจดี้ได้สั่งทำรูปปั้นขนาดย่อมเป็นรูปแฟรงกี้ แล้วนำมาตั้งเอาไว้ในบ้าน เพื่อเป็นตัวแทนของแฟรงกี้ ทุกวันนี้เธอและสามียังคงต้องติดตามใช้หนี้ก้อนใหญ่ที่ได้ไปกู้และรูดบัตรเครดิตเอาไว้ แต่โจดี้ไม่เคยเสียใจเลยที่ตัดสินใจใช้เงินก้อนนี้เพื่อช่วยแฟรงกี้ แม้ว่ามันจะจากไปก็ตาม เพราะเจ้าตูบแสนดีตัวนี้ได้ช่วยเหลือเธอ และผู้ป่วยคนอื่น ๆ มาแล้วมากมาย จนกระทั่งลมหายใจสุดท้ายของมัน
