เพื่อนบ้านชาวอเมริกันปฏิบัติการช่วยค้นหาตูบตาบอด หลังหลงทางหายไปกลางป่านานกว่าสัปดาห์ เกือบจะหมดหวังแต่ในที่สุดก็พบและช่วยไว้ได้ปลอดภัย น่าซึ้งใจแทนเจ้าตูบที่สุด
เว็บไซต์เดอะโดโด้ (วันที่ 8 มีนาคม 2560) เผยเรื่องราวของ เจ้าเซจ ตูบสายพันธุ์ลาบราดอร์เพศเมีย อายุ 12 ปี และพิการตาบอด หลังจากมันได้พลัดหลงเข้าไปในป่าลึกนานกว่าสัปดาห์ ทำให้ทางครอบครัวต่างรู้สึกเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก โดยในตอนแรกพวกเขาคิดว่าได้พามันกลับเข้าบ้านไปด้วยแล้วหลังจากพามันออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้า ทว่าหลังจากนั้นกว่า 1 ชั่วโมงถึงพบว่า มันได้หายออกไปจากบ้าน
ทันทีที่ทราบว่าเจ้าเซจหายไป ทางครอบครัวของ เบ็ธ โคล เจ้าของเจ้าเซจ ก็รีบออกตามหามัน โดยเริ่มจากที่รอบ ๆ บ้านในเขตโบลเดอร์ ครีก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ที่พวกเขาคิดว่ามันอาจจะแค่แอบมาเดินเล่นแถวนั้น แต่แล้วพวกเขาก็ไม่พบมัน
ขณะที่เพื่อนบ้านกว่า 10 คน ก็ได้ออกมาช่วยกันร่วมแรงช่วยตามหาเจ้าเซจจนถึงดึกดื่นในวันเดียวกัน แต่ก็ยังไม่พบ และหลังจากนั้นอีกหลายวันพวกเขาก็ยังมาช่วยตามหาอยู่เช่นเดิม
เว็บไซต์เดอะโดโด้ (วันที่ 8 มีนาคม 2560) เผยเรื่องราวของ เจ้าเซจ ตูบสายพันธุ์ลาบราดอร์เพศเมีย อายุ 12 ปี และพิการตาบอด หลังจากมันได้พลัดหลงเข้าไปในป่าลึกนานกว่าสัปดาห์ ทำให้ทางครอบครัวต่างรู้สึกเป็นกังวลใจเป็นอย่างมาก โดยในตอนแรกพวกเขาคิดว่าได้พามันกลับเข้าบ้านไปด้วยแล้วหลังจากพามันออกไปเดินเล่นที่สนามหญ้า ทว่าหลังจากนั้นกว่า 1 ชั่วโมงถึงพบว่า มันได้หายออกไปจากบ้าน
ทันทีที่ทราบว่าเจ้าเซจหายไป ทางครอบครัวของ เบ็ธ โคล เจ้าของเจ้าเซจ ก็รีบออกตามหามัน โดยเริ่มจากที่รอบ ๆ บ้านในเขตโบลเดอร์ ครีก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ที่พวกเขาคิดว่ามันอาจจะแค่แอบมาเดินเล่นแถวนั้น แต่แล้วพวกเขาก็ไม่พบมัน
ขณะที่เพื่อนบ้านกว่า 10 คน ก็ได้ออกมาช่วยกันร่วมแรงช่วยตามหาเจ้าเซจจนถึงดึกดื่นในวันเดียวกัน แต่ก็ยังไม่พบ และหลังจากนั้นอีกหลายวันพวกเขาก็ยังมาช่วยตามหาอยู่เช่นเดิม
วันเวลาผ่านไปสู่วันที่ 5
นับจากวันที่เจ้าเซจหายตัวออกจากบ้านไป
ครอบครัวโคลก็เริ่มรู้สึกใจคอไม่ดีแล้ว เนื่องจากในป่ามีสัตว์ล่าเนื้อ
มีความเป็นไม่ได้ที่มันอาจจะไม่รอดชีวิต แต่ทั้งนี้ทางครอบครัวโคล
และเพื่อนบ้านจำนวนหนึ่งก็ยังคงช่วยตามหาเจ้าเซจอยู่อย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 8 ในขณะที่ความริบหรี่หลงจนใกล้จะหมดหวัง ในที่สุด แดน เอสทราดา หนึ่งในเพื่อนบ้านของโคลที่ช่วยออกตามหาเจ้าเซจ พร้อมกับสุนัขของเขาอีก 2 ตัว และวินเซนต์ เพื่อนของเขา ก็พบตัวเจ้าเซจโดยบังเอิญ หลังจากพากันเดินสำรวจในป่าไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งเข้าสู่วันที่ 8 ในขณะที่ความริบหรี่หลงจนใกล้จะหมดหวัง ในที่สุด แดน เอสทราดา หนึ่งในเพื่อนบ้านของโคลที่ช่วยออกตามหาเจ้าเซจ พร้อมกับสุนัขของเขาอีก 2 ตัว และวินเซนต์ เพื่อนของเขา ก็พบตัวเจ้าเซจโดยบังเอิญ หลังจากพากันเดินสำรวจในป่าไปเรื่อย ๆ
เอสทราดา เผยว่า
ในตอนแรกที่เขาพบเจ้าเซจอยู่ที่บริเวณแนวลาดชันในป่า
เขาคิดว่ามันเป็นถุงขยะ และรู้สึกผิดหวัง
เพราะคิดว่าทำไมถึงมีคนนำขยะมาทิ้งในป่าได้ แต่แล้วเมื่อเข้าไปดูใกล้ ๆ
ก็มีอันต้องอึ้ง เมื่อเจ้าสิ่งนั้นไม่ใช่ขยะ
แต่เป็นเจ้าเซจที่กำลังตามหาอยู่นั่นเอง
เจ้าเซจซุกตัวซ่อนนิ่งอยู่ที่บริเวณใกล้กับธารน้ำ นั่นทำให้เอสทราดา คิดว่ามันตายแล้ว แต่แล้วในขณะที่เขาและวินเซนต์กำลังรู้สึกเสียใจที่จะต้องนำข่าวร้ายไปบอกกับครอบครัวของมัน แต่อยู่ ๆ เจ้าเซจมันก็ผงกหัวขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกว่ามันยังมีชีวิตอยู่ ทำให้พวกเขาทั้งคู่ทั้งดีใจและตื่นเต้นสุด ๆ
เจ้าเซจซุกตัวซ่อนนิ่งอยู่ที่บริเวณใกล้กับธารน้ำ นั่นทำให้เอสทราดา คิดว่ามันตายแล้ว แต่แล้วในขณะที่เขาและวินเซนต์กำลังรู้สึกเสียใจที่จะต้องนำข่าวร้ายไปบอกกับครอบครัวของมัน แต่อยู่ ๆ เจ้าเซจมันก็ผงกหัวขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกว่ามันยังมีชีวิตอยู่ ทำให้พวกเขาทั้งคู่ทั้งดีใจและตื่นเต้นสุด ๆ
เนื่องจากไม่ได้กินอะไรมานานถึงกว่า 8 วัน เจ้าเซจจึงอยู่ในสภาพสุดอ่อนเพลียและอิดโรย ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าเซจไม่มีแรงเดิน เอสทราดา เผยว่า หลังจากพบมัน เจ้าเซจเดินได้ไม่ถึง 10 ก้าว เขาจึงตัดสินใจอุ้มมันแบกมันขึ้นขี่หลังกลับลงมา
หลังจากนั้น เอสทราดา และเพื่อนได้ติดต่อไปยังครอบครัวโคล
เจ้าของเจ้าเซจ เพื่อแจ้งข่าวดีและให้มารับตัวมัน
และทันทีที่ทางครอบครัวได้มาเจอหน้ามัน พวกเขาต่างดีใจจนพูดไม่ออก
จนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่เลยทีเดียว พลางกล่าวขอบคุณทางเอสทราดา
และเพื่อน ด้วยความสุดซาบซึ้งใจอย่างที่สุด
ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวโคล ได้ประกาศตามหาเจ้าเซจและบอกว่าให้เงินรางวัลจำนวน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 35,000 บาท แก่ผู้ที่ตามหามันพบ แต่สุดท้ายทาง เอสทราดา ก็ปฏิเสธไม่ขอรับไว้ แต่ขอให้นำเงินจำนวนนั้นไปบริจาคให้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์แทน
ก่อนหน้านี้ทางครอบครัวโคล ได้ประกาศตามหาเจ้าเซจและบอกว่าให้เงินรางวัลจำนวน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 35,000 บาท แก่ผู้ที่ตามหามันพบ แต่สุดท้ายทาง เอสทราดา ก็ปฏิเสธไม่ขอรับไว้ แต่ขอให้นำเงินจำนวนนั้นไปบริจาคให้กับองค์กรช่วยเหลือสัตว์แทน