เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Dearannie
ตอนนี้หากมีเวลาว่างเปิดดูเว็บไซต์หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กกันเมื่อไหร่ ก็มักจะได้เห็นเพื่อนโพสต์รูปแมว หรือเจอเพจต่าง ๆ ที่ถูกสร้างขึ้นมาให้สาวกแมวได้ติดตามกันโดยเฉพาะ นอกจากนี้จะการนำภาพเจ้าเหมียวสี่ขามาโพสต์ให้เห็นกันอยู่เสมอแล้ว บางครั้งก็ยังปิดท้ายด้วยการเล่าเรื่องขำขันของแมวเหล่านั้นอีกด้วย
แน่นอนว่าเมื่อได้เห็นรูปน่ารัก ๆ แบบนั้น คนที่เลี้ยงแมวคงรู้สึกคันไม้คันมืออยากจะนำรูปแมวของตัวเองมาโพสต์บ้างใช่ไหมล่ะ แต่ก่อนที่จะจับแมวของคุณมาจัดแจงทำท่าทางเพื่อเก็บรูปภาพสวย ๆ เรามาดูเทคนิคและวิธีการถ่ายภาพแมวกันก่อนดีกว่า
1. หลอกล่อด้วยปลอกคอหรือของเล่น
ของเล่นหรือปลอกคอที่คุณสวมให้กับแมวเป็นประจำเป็นตัวช่วยในการถ่ายภาพที่ดีทีเดียว โดยการนำปลอกคอมาคล้องเอาไว้แบบหลวม ๆ หรือวางของเล่นเอาไว้บริเวณด้านข้างของเลนส์กล้อง และขยับปลอกคอให้เคลื่อนไหวเล็กน้อย เพื่อดึงดูดความสนใจของแมวให้หันมาที่กล้อง ในขณะเดียวกันก็ควรเตรียมกล้องให้พร้อม จะได้กดชัตเตอร์ทันทีหากได้มุมที่ต้องการ แต่ทั้งนี้หากคุณไม่มีปลอกคอก็สามารถใช้ของเล่นอื่น ๆ แทนกันได้
2. เปลี่ยนการตั้งค่าระดับความสว่าง
ถึงแม้ว่ากล้องดิจิตอลสำหรับถ่ายภาพทั่วไป จะมีโหมดปรับระดับความสว่างของแสงแบบอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกในการถ่ายรูป แต่สำหรับการถ่ายรูปแมวดำหรือแมวที่มีขนสีเข้มนั้น ควรเพิ่มระดับความสว่างขึ้นไปอีก เพราะระดับความสว่างที่มากขึ้นจะช่วยให้เลนส์สามารถจับภาพ และเห็นรายละเอียดต่าง ๆ ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
3. ไม่ควรใช้แฟลช
นอกจากแสงแฟลชจะทำให้แมวบางตัวตกใจกลัวจนต้องวิ่งหนีออกจากหน้ากล้องแล้ว แสงสว่างวาบที่ออกมาจากแฟลชยังทำให้รายละเอียดต่าง ๆ บนตัวแมวพร่าเลือนตามไปด้วย ดังนั้นหากต้องการจะถ่ายภาพแมว ควรจะถ่ายในสถานที่ที่มีแสงเพียงพอ หรือแทนที่แสงแฟลชด้วยแสงจากหลอดไฟ ซึ่งการใช้อุปกรณ์ช่วยกระจายแสงแฟลชก็ช่วยได้เช่นกัน
4. แต่งภาพด้วยพร็อบ
การใช้พร็อบนอกจากจะทำให้รูปแมวมีความสวยงามยิ่งขึ้นแล้ว ยังทำให้คนที่เข้ามาดูรู้สึกเหมือนได้เป็นส่วนหนึ่งของรูปเหล่านั้นด้วย โดยเฉพาะพร็อบที่เกี่ยวข้องกับของใช้ภายในบ้าน อย่างเช่น หมอนอิง ผ้าห่ม หรือแม้กระทั่งของตกแต่งบ้านชิ้นเล็กชิ้นน้อย นอกจากนี้ อาจเลือกของที่มีสีสันสดใสมาใช้ เพื่อเติมความสดใสด้วยก็ได้
5. โฟกัสใบหน้าของแมว
สาเหตุที่ควรโฟกัสใบหน้าของแมว เพราะดวงตากลมโตคู่นั้นเป็นส่วนที่จะบอกเล่าเรื่องราว และสื่อความรู้สึกของแมวออกมาได้ดีที่สุด ที่สำคัญอย่ากลัวที่จะนำกล้องเข้าไปใกล้ ๆ พร้อมกับโฟกัสเฉพาะใบหน้าของมัน ทั้งนี้ สามารถใช้โหมดมาโครหรือเลนส์มาโคร เพื่อเบลอส่วนที่เป็นแบล็คกราวน์โดยรอบ เพื่อทำให้ใบหน้าของแมวมีความโดดเด่น และเผยให้เห็นรายละเอียด ทั้งดวงตา ขน และส่วนอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
6. แก้ไขจุดบกพร่องด้วยโปรแกรมแต่งภาพ
ก่อนที่จะอัพโหลดรูปถ่ายลงในเว็บไซต์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กต่าง ๆ ควรจะเช็กความเรียบร้อยของเสียก่อน ทั้งสีสัน ความสว่าง องค์ประกอบต่าง ๆ โดยเพิ่มเติมในส่วนที่ขาด และลบองค์ประกอบที่เกินออกด้วยโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ เพื่อให้รูปแมวของเราสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น แต่ถ้าคิดว่าขั้นตอนยุ่งยากเกินไป ให้ลองใช้แอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือแทนก็ได้
7. หาผู้ช่วย
สำหรับแมวที่ค่อนข้างซุกซนมาก ๆ อาจจะต้องหาคนมาช่วย ทั้งนี้ คนที่จะมาช่วยถ่ายรูปควรเป็นคนที่แมวคุ้นเคย อย่างเช่น สมาชิกในครอบครัว หรือเพื่อนสนิท ซึ่งวิธีการเช่นนี้จะช่วยให้การถ่ายรูปแมวของคุณก็ง่ายดายมากขึ้น แถมตัวคุณเองและผู้ช่วยก็จะรอดพ้นจากการโดนแมวข่วนอีก
อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดในการถ่ายรูปแมว คือ ความอดทนของตากล้อง เพราะในระหว่างที่กำลังถ่ายรูปแมวอาจจะหันซ้ายหันขวา เดินหนี หรือวิ่งไปเล่นกับของเล่นชิ้นอื่นได้ตลอดเวลา ซึ่งบางครั้งเราอาจไม่ได้มุมสวย ๆ ตามที่ต้องการ หรือแม้จะได้มุมดี ๆ มาแล้ว แต่รูปนั้นอาจเบลอก็ได้ ฉะนั้น คุณควรใจเย็นลง และพยายามอดทนรอให้มากที่สุดเพื่อให้ได้ถ่ายรูปถ่ายสวย ๆ ไปแบ่งปันให้คนอื่นดูด้วยนั่นเอง
เรื่องสัตว์เลี้ยง ทั้ง สุนัข แมว ปลา ฯลฯ พร้อมวิธีดูแลสัตว์เลี้ยง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
หมายเหตุ : แก้ไขข้อมูลล่าสุด วันที่ 4 พ.ย. 56 เวลา 17.34 น.