x close

นกหงส์หยก ใช่เด่นสีสัน เน้นคอตั้ง ทรงหัวแครอท




"หงส์หยก"ใช่เด่นสีสัน เน้นคอตั้ง ทรงหัวแครอท (ไทยรัฐ)

          เผยเคล็ดเลี้ยงนกหงส์หยกให้ได้คุณภาพ ควรมีโรงเรือนที่ลมไม่โกรก ฝนไม่สาด อากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่ควรร้อน พร้อมแนะช่วงนกสวยที่สุด คือ หลังถ่ายขนแรก...

          "นกหงส์หยก" พื้นเพเดิมอยู่ประเทศออส-เตรเลีย มีขนาดค่อนข้างเล็ก ต้นตระกูลมีสีเขียวและสีพราย ด้วยสีสันสวยงามสะดุดตาผู้พบเห็น จึงกลายเป็นที่นิยมเลี้ยงกันทั่วไป กระทั่งเริ่มแพร่ขยายไปยังยุโรป เช่น อังกฤษ เยอรมนี ฮอลแลนด์ สหรัฐอเมริกา และไทย ซึ่งที่นิยมเลี้ยงในขณะนี้มี 2 สายพันธุ์คือ ฮอลแลนด์ ขนาดรูปร่างจะเล็ก และ พันธุ์อังกฤษ รูปร่างใหญ่...

          คุณกิตติ เขมบุญราศี เหรัญญิกชมรมนกหงส์หยกแห่งประเทศไทย ซึ่งมีฟาร์มตั้งอยู่แถว ถ.บางขุนเทียน-ชายทะเล กทม. เล่าให้ "หลายชีวิต" ฟังว่า...เริ่มเลี้ยงหงส์หยกมาตั้งแต่ปี’39 เพราะชื่นชอบ แรกๆมีอยู่ประมาณ 10 ตัว ช่วงหนึ่งคิดว่าอยากได้นกที่ตัวใหญ่กว่าพันธุ์ฮอลแลนด์ จึงเริ่มพัฒนาสายพันธุ์เรื่อยมากระทั่งปัจจุบันที่ฟาร์มมีอยู่ประมาณ 500 ตัว ไม่ได้มีไว้ขาย แต่เพื่อบรีดสายพันธุ์ให้ได้สีใหม่ๆเกิดขึ้น

          ...การเลี้ยงหงส์หยกให้ได้คุณภาพ คุณกิตติบอกว่า ควรมีโรงเรือนที่ลมไม่โกรก ฝนไม่สาด อากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่ควรร้อนเกินไป โดย ใช้ความรู้สึกจากตัวเราวัด ถ้าเราร้อนนกก็ร้อน เช่นกัน ส่วนการเลือกพ่อแม่พันธุ์มือใหม่ควรซื้อตัวถูก ๆ เพื่อสะสมประสบการณ์ก่อน ส่วน กรงเลี้ยง ควรสร้างลักษณะแบบ "คอนโด" ป้องกันการตีแย่งรังเพื่อวางไข่จากนกตัวเมีย

          เพราะเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ซึ่งจะอายุประมาณ 7-8 เดือน โดยตัวผู้มีขนาดวัดจากหัวถึงหาง 10-12 นิ้ว ส่วนเพศเมียความยาวเฉลี่ย 8 นิ้ว เริ่มวางไข่ตลอดทั้งปี หลังจากเข้าคู่ผสมพันธุ์ภายใน 1 สัปดาห์ จะวางไข่ฟองแรกแบบ วันเว้นวัน กระทั่งครบ 6-8 ฟอง จึงหยุดและใช้เวลาฟักให้ลูกน้อยออกมาสู่โลกภายนอก 17 วัน ซึ่งแม่นกจะกกไข่ให้ออกเป็นตัวเพียงแค่ 3-4 ตัวแรก

          ฉะนั้น...ถ้าต้องการลูกนกจากไข่ทุกใบที่มีเชื้อ ควรย้ายไปให้ "มือปืน" หรือแม่นมตัวต่อไปช่วยฟักและ "ป้อนลูก" วิธีนี้จะได้จำนวนลูกนกเพิ่มมากขึ้น หลังจากอายุ 1 เดือน เริ่มกินอาหารเป็น ควรแยกออกมาอนุบาลป้องกันแม่นกตีเพื่อทวงรังไว้สำหรับวางไข่ครั้งต่อไป ในช่วงอนุบาลถือว่าสำคัญ เพราะว่าหากดูแลไม่ดีจะทำให้ลูกนกตาย

          หลังแยกจากแม่ควรใส่พ่อนกไว้ในกรงเพื่อช่วยดูแลตัวเล็ก ส่วนลูกนกบางตัวที่โตกว่าก็จะทำหน้าที่เป็น พี่เลี้ยงน้อง ด้วย ช่วงนี้ควรใส่ขนมปังวิตามินหัดให้นกเล็กแทะอาหาร และตัวไหนที่กินได้ถือว่าเป็น "สัญญาณแห่งความอยู่รอด" แล้วจึงเริ่มให้อาหารหลักก็คือ มิลเล็ด และ ข้าวไร ส่วนตัวไหนที่ หมายตา ไว้ทำพ่อแม่พันธุ์ ไม่ควรเลี้ยงให้อ้วนเกินไป เพราะจะไม่สามารถเพาะพันธุ์ได้ ดังนั้น ช่วงนี้ควรให้ข้าว เปลือกเม็ดมะเขือ

          ...พร้อมทั้งใส่ "กระดองปลา-หมึก" ซึ่งจะมีแคลเซียม อาหารเสริม ช่วยให้ไข่นกสมบูรณ์ โดยใส่ไว้ในกรง แม่นกจะมาแทะกินเอง และควรใส่ทรายหยาบ เปลือกหอยบดเสริมไว้สำหรับช่วยระบบย่อย และให้ "นูทรีไวแตน" ซึ่งเป็นวิตามินรวมสำหรับบำรุงไข่บำรุงเชื้อ โดยผสมน้ำให้นกกินอาทิตย์ละ 2 วัน และใช้ B12 สำหรับป้องกันไม่ให้เกิดโรคหวัด ลดความเครียด

          สำหรับการดูนกช่วงสวยที่สุดคือ หลังถ่ายขนแรก หัวจะพองฟู ดูจากด้านบนทรวดทรงยืนคอตั้งเหมือนไก่สละมอ คอหลังมีโหนก คอตันเหมือนนกฮูก ทรงไหล่ใหญ่หนา ตั้งแต่หัวถึงหางรูปร่างเรียวยาวเหมือนแครอท ส่วนสีสันนั้นไม่จำกัด






ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
นกหงส์หยก ใช่เด่นสีสัน เน้นคอตั้ง ทรงหัวแครอท อัปเดตล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2552 เวลา 17:21:17 4,777 อ่าน
TOP