เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
บ้านไหนที่คุณแม่กำลังมีน้อง รวมทั้งเลี้ยงเจ้าตูบเอาไว้ในบ้านด้วยคงจะมีเฮ เมื่อผลวิจัยล่าสุดในวารสารกุมารเวชศาสตร์ โดยกุมารแพทย์ชาวฟินแลนด์ชี้ว่า การเลี้ยงเจ้าตูบไว้ในบ้านร่วมกับทารกน้อยในวัยขวบปีแรก ช่วยให้เด็ก ๆ มีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงดี
ตามรายงานจากเว็บไซต์วอลสตรีทเจอร์นัล วันที่ 9 กรกฎาคม ระบุว่า นายแพทย์อีจา เบอร์โกรธ กุมารแพทย์จากโรงพยาบาลคุโอปิโอ ในฟินแลนด์ ได้ทำการศึกษาว่าการที่เด็กทารกได้ใกล้ชิดคลุกคลีกับสุนัขและแมว มีผลต่อเรื่องความแข็งแรงของเด็กน้อยหรือไม่ โดยได้ติดตามเด็ก ๆ 397 คน ที่เกิดที่โรงพยาบาลคุโอปิโอ ในช่วงเดือนกันยายน 2002 - พฤษภาคม 2005 ซึ่งมีทั้งครอบครัวที่เลี้ยงเจ้าสี่ขาและบ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยงเลย โดยให้ผู้ปกครองตอบแบบสำรวจเกี่ยวกับสุขภาพและอาการความเปลี่ยนแปลงของบุตรหลานเป็นประจำทุกสัปดาห์ ตั้งแต่อายุ 9 สัปดาห์ - 1 ปี
ผลการรวมรวมข้อมูล สรุปได้ว่า เด็ก ๆ จากบ้านทีมีสัตว์เลี้ยง และต้องเลี้ยงแบบปล่อยเอาไว้นอกบ้าน 18 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นในหนึ่งวัน มีสุขภาพที่แข็งแรงและเจ็บป่วยน้อยกว่าอย่างมีนัยสำคัญ โดย 73% ของเด็กที่มาจากบ้านที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรงดี ส่วนเด็กที่มาจากบ้านที่ไม่เลี้ยงสัตว์เลยมีสัดส่วนที่สุดภาพดีอยู่ที่ 65% เท่านั้น ขณะที่เด็ก ๆ ที่ได้คลุกคลีกับสัตว์เลี้ยงนั้น มีอาการเจ็บป่วยที่พบมากในเด็กอย่างอาการหูอักเสบ ระบบทางเดินหายใจผิดปกติ เป็นไข้ มีน้ำมูก น้อยกว่าเด็กที่ไม่มีโอกาสใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงมาก ทั้งยังแทบไม่ต้องกินยาลดไข้หรือยาแก้อักเสบใด ๆ เลย ส่วนเหตุผลที่ทำให้ผลการสำรวจออกมาเป็นเช่นนี้ น่าจะเกิดจากการที่สัตว์เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นสุนัขหรือแมว ได้นำเอาดินและแบคทีเรียต่าง ๆ จากนอกบ้านเข้ามาภายในด้วย ทำให้เด็ก ๆ ที่ได้ใกล้ชิดกับมันสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาเองอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งยังพบว่าเด็ก ๆ โอกาสที่เด็ก ๆ เหล่านี้จะพัฒนาไปเป็นโรคภูมิแพ้ใด ๆ ในอนาคตก็ลดน้อยลงด้วย
รู้อย่างนี้แล้วบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่างเจ้าตูบและเจ้าเหมียว รวมทั้งว่าที่คุณแม่ที่กำลังจะคลอดเจ้าตัวน้อยออกมาก็คงจะโล่งใจได้ว่า ทั้งลูกน้อยและสัตว์ตัวโปรดสามารถอยู่ด้วยกันได้ แถมยังทำให้คุณหนูสุขภาพแข็งแรงดีอีกด้วยล่ะค่ะ แต่อย่าลืมว่าไม่ว่าอย่างไรก็ต้องทำความสะอาดเจ้าตูบเจ้าเหมียวให้เหมาะสม และตัวมันเองก็ต้องเชื่องและอ่อนโยนกับเด็กเล็ก ๆ ด้วยนะคะ ^^
