x close

THE STANDARD MINIATURE SCHNAUZER





THE STANDARD MINIATURE SCHNAUZER (Pet Journal)
เรื่องโดย : Beer Plasma Ms

            สวัสดีครับ เรา Plasma Ms คิดว่าหลาย ๆ ท่านคงเคยศึกษาเกี่ยวกับมาตรฐาน ของ Miniature Schnauzer มาบ้างแล้ว แต่ก่อนจะตัดสินใจ เลือกซื้อมาเป็นเพื่อนหรือเพื่อประกวด คงจะมีอีกหลายท่านที่ต้องการข้อมูล ของ Miniature Schnauzer ให้ดีมากขึ้น เราจึงได้จัดทำ มาตรฐานสายพันธุ์ ให้ละเอียดยิ่งขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจเลือกซื้อ ไม่เข้าใจตรงไหน หรือต้องการข้อมูลและอยากให้ผู้เขียน เขียนเกี่ยวกับ Miniature Schnauzer ในเรื่องใดที่เพื่อน ๆ พี่ ๆ ต้องการอ่านส่ง E-mail มาติ ชม แนะนำ เพิ่มเติมได้เสมอครับ

ลักษณะทั่วไป

            ลักษณะทั่วไป หรือภาพรวมของ Miniature Schnauzer จุดที่สำคัญคือความ เป็น Terrier และความเหมือนกับญาติที่ตัวโตกว่า คือ Standard Schnauzer โดยที่ไม่มีจุดใด ๆ ที่แสดงความ เหมือนกับสุนัขกลุ่ม Toy

            Miniature Schnauzer เป็นสุนัขตัวเล็กที่มี รูปร่างกะทัดรัด รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส มีกระดูกที่แข็งแรงและมีกล้ามเนื้อที่แน่นหนา รูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุจักรของร่างกายเป็นการมองจากด้านข้าง โดยวัดจากความยาวของลำตัว กับความสูงจากพื้นถึงไหล่ ความผิดพลาดร้ายแรงคือ มีร่างกายที่ผอมบางและกระดูกที่เล็กเกินไป ดูไม่แข็งแรงและขาดความกระตือรือร้น หรือการมีน้ำหนักมากเกินไปจนดูอ้วน

            ในด้านรูปร่าง ของ Miniature Schnauzer จะไม่มีความแตกต่างกันระหว่างตัวผู้ และตัวเมีย อย่างไรก็ตาม Miniature Schnauzer ตัวเมีย ดูจะมีความสมบูรณ์พร้อมในทุกด้านมากกว่าตัวผู้เสียอีก แม้ว่าทั้งตัวเมียและตัวผู้จะมีขนาดตัวที่เท่ากัน แต่ตัวเมียควรจะมีลักษณะที่ดูแล้วเป็นเพศหญิง เช่น เดียวกับตัวผู้ควรมีลักษณะที่เป็นเพศชาย เช่นกัน สุนัขตัวเมียที่มีลักษณะเหมือนตัวผู้มากเกินไป มักจะมีข้อเสียที่ส่วนหัว โดยการมีส่วนหัวที่มีขนาดใหญ่เกินไป และมีคอที่สั้นและหนา สำหรับตัวผู้ที่มีลักษณะเหมือนตัวเมียมากเกินไป มักมีข้อเสียที่ส่วนหัวมีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับขนาดของร่างกาย และร่างกายส่วนมากจะไม่มีกล้ามเนื้อทำให้ดูบางเกินไป ในบางครั้งอาจขาดความเข้มแข็งในด้านอารมณ์ จิตประสาทอ่อน Miniature Schnauzer เพศเมียควรจะมีสะโพกที่ใหญ่กว่าเล็กน้อย มีสวนลำคอที่เรียว และดูดีกว่า และร่างกายส่วนท้ายที่ดีกว่า

อารมณ์ และ นิสัย

            “Alert, spirited, obedient, friendly, intelligent” แปลเป็นไทย คือ “ตื่นตัว, มีชีวิตชีวา, เชื่อฟัง, เป็นมิตร, ฉลาด” ทั้งหมด นี้จะพบได้ในตัว Miniature Schnauzer ทุกคนที่เคยเลี้ยง หรือพบเห็นจะเข้าใจเป็นอย่างดี ด้วยสภาพอารมณ์และนิสัยเช่นนี้ ทำให้ Miniature Schnauzer เป็นสุนัขที่เหมาะสำหรับเลี้ยงเป็นเพื่อน และเป็นสมาชิกในครอบครัว

            ในสนามประกวด Miniature Schnauzer จะเป็นสุนัขที่โดดเด่น ทั้งการยืนโชว์และการเคลื่อนไหว เป็นเพราะอารมณ์ตามธรรมชาติของเขา โดยไม่มีความก้าวร้าวหรือความดุร้ายให้เห็น ไม่ตื่นกลัวกับสิ่งรอบข้างง่าย ๆ เราสามารถรู้ได้ตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข โดยที่ลูกสุนัขจะไม่ตื่นกลัวง่าย ๆ กับเสียงแปลก ๆ รอบข้าง แต่กลับจะให้ความสนใจ อยากรู้มากกว่า คุณสมบัติเหล่านี้ จะทำให้ Miniature Schnauzer เป็นสุนัขโชว์ที่ดีได้ โดยที่สามารถวางตัวได้ดี ต่อหน้ากรรมการ และ เชื่อฟังคำสั่งของผู้จูงเป็นอย่างดี





ลักษณะพิเศษของส่วนหัว

            Miniature Schnauzer เป็นสุนัขที่มีลักษณะเด่นที่สุด และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเขานั้นคือ ส่วนหัว การตัดหูเป็นข้อแตกต่างของกลุ่ม Terrier เพราะสุนัขกลุ่มนี้ไม่นิยมตัดหูในประเทศไทย Miniature Schnauzer ถูกจัดให้อยู่ใน Group 2 (ตามกฎระเบียบของ FCI) การตัดหูจึงดูไม่แตกต่างจากพันธุ์อื่น ๆ เท่าใดนัก

            การตัดหูจะมีลักษณะที่เรียว และ แหลม มีรูปร่างคล้ายระฆัง Miniature Schnauzer จะไม่ตัดหูให้ยาวเหมือนกับ Boxer หรือ สั้นเหมือนพิทบูล แต่จะตัดเพื่อสร้างรูปทรงที่ดีให้กับกะโหลก บางครั้งก็สามารถลบหรือปกปิดส่วนด้อยของหูได้ เช่น ตำแหน่งหูที่ตำกว่าปกติ หรือหูที่ตั้งเองโดยธรรมชาติ การตัดหูเป็นที่นิยมมานานมาก แต่เมื่อประมาณปี 1980 เริ่มมี Miniature Schnauzer ที่ไม่ตัดหูหรือเรียกว่า หู ธรรมชาติ ได้ตำแหน่ง Champion ในการประกวดที่อเมริกาอยู่บ้าง ใบหูธรรมชิตของสุนัขเหล่านั้น จะมีการพับตัวที่สวยงาม และมีขนาดเล็ก

            สุนัขที่ตัดหู หรือหูธรรมชาติต่างต้องให้สำคัญในการจัดแต่งเป็นอย่างมากในการประกวดมีสุนัขไม่น้อย ที่ต้องพลาดรางวัลเพราะการตัดหูที่ไม่ได้รูปทรง หรือการที่ปล่อยหูไว้ตามธรรมชาติแต่ไม่ได้รูปทรงที่เหมาะสมกับรูปกะโหลกของสุนัขอาจทำให้พลาดรางวัล ได้ เช่นกัน

            ลักษณะพิเศษอีก อย่างหนึ่งของส่วนหัวคือ หนวดเครา และคิ้ว ส่วนนี้เป็นส่วนที่เพิ่มความเด่นของหน้าตาสุนัข ส่วนนี้ต้องได้รับการตบแห่งเป็นพิเศษ และพยายามไม่ให้เกิดความผิดพลาดเด็ดขาด ถ้าตัดคิ้วโดยที่ปล่อยให้เหลือมากเกินไปและล้ำเข้าไปในส่วนบนของหัวมากเกินไป จะทำให้ส่วนหัวดูสั้นและกว้าง ไม่ได้รูปทรงเรียวยาวสวยงาม แต่ถ้าปล่อยให้ขนคิ้วยาวมาก ๆ และตัดให้บางล้ำเข้ามาบริเวณหน้าผากจะทำให้ปากของสุนัขดูสั้น

            การตัดแต่งเครา จะมีความหลากหลายแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าสุนัขแต่ละตัวมีความต้องการอย่างไร และความเหมาะสมของรูปในหน้าของสุนัข บางตัวมีใบหน้าที่ยาวจะต้องปล่อยให้เครามีมากกว่า ตัวที่มีใบหน้าสั้นการตัดแต่งขนบริเวณนี้ จะต้องเหลือไว้พอที่จะไม่เหมมุมของปากสุนัข บางครั้งการตัดเคราก็มีความจำเป็นต่อรูปร่าง สุนัขบางตัวเป็นสุนัขที่สูง ขายาว จะต้องปล่อยเคราให้ยาวเพื่อให้เกิดความสมดุลของความสูง ส่วนตัวที่มี รูปร่างเตี้ย ไม่ควรปล่อยเคราให้ยาวเพราะจะดูเตี้ยมากกว่าเดิม

ส่วนหัว

            มีส่วนเล็ก ๆ หลายจุดที่สำคัญในบริเวณส่วนหัวของ Miniature Schnauzer ในแต่ละส่วนจะให้ความสำคัญกับขนาดความคมชัดของแนวเส้นกระดูก และกล้ามเนื้อของกะโหลก โดยความสมดุลจะเทียบระหว่างความยาวของกะโหลกกับความยาวของปากร่วมกับความกว้างและลึกด้วย

            บริเวณหัวตาจะเป็นจุดแบ่งระหว่างความยาวของกะโหลก และความยาวของปาก ความสมดุลของปาก และกะโหลก จะต้องวัดที่ความยาวของทั้งสองอย่างใกล้เคียงกันมากที่สุด แต่อย่างไรก็ตามการที่จะมีทั้งปาก และกะโหลกที่ยาวเท่ากันเป็นไปได้ยาก ประกอบกับความนิยมในปัจจุบัน สุนัขที่มีส่วนปากที่ยาวกว่ากะโหลกจะได้รับการยอมรับกว่าสุนัขที่มีปากสั้นกว่ากะโหลกอยู่มาก และจะมีความสวยงามของรูปหน้าที่ดีกว่าด้วย ฉะนั้นต้องเลือกตัวที่มีใบหน้าที่ดูยาวจะดีกว่า

            ในปัจจุบัน Miniature Schnauzer ส่วนมากส่วนด้านบนของหัว จะมีลักษณะกลม หรือไม่เรียบ แต่ในความเป็นจริงมาตรฐานของ Miniature Schnauzer เมื่อมองหัวจากด้านข้าง จะเห็นว่ามีลักษณะแบนเรียบ ซึ่งควรจะเป็นเช่นนั้น ควรเลือกสุนัขที่มีหัวส่วนบนคือบริเวณระหว่างหูมีลักษณะที่แบนเรียบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ส่วนที่มีความผิดพลาดและสามารถเห็นได้อย่างเด่นชัดคือ ส่วนหัวที่กลมหรือ หน้าผากที่ยื่นออก ส่วนที่มีความผิดพลาดแต่เป็นข้อผิดพลาดเพียงเล็กน้อยคือ ปากที่มีขนาดเล็ก (แต่ยังยาวพอใช้) ดวงตาที่มีขนาดเล็ก ซึ่งสามารถแก้ไขโดยการแต่งขน ที่คิ้วและหนวดเคราช่วยปกปิดได้

            ส่วนหัวที่มีความสมดุล พันและดวงตาจะต้องเป็นส่วนที่นำมาพิจารณาร่วมด้วย ฟันของ Miniature Schnauzer จะมีขนดาใหญ่เมื่อเทียบกับขนาดของตัว ด้านหน้าของขากรรไก จะต้องมีฟันเล็ก ๆ 6 ซี่ ทั้งบน และล่างและต่อจากนั้นจะเป็นเขี้ยว ซึ่งต้องมีขนาดใหญ่และมีความยาวเมื่อเทียบกับตัวของสุนัข ขากรรไกบนต้องขบครอบขากรรไกล่างในลักษณะกรรไก การที่ขากรรไกล่าง ยื่นออกมามากกว่าด้านบนจะถือว่าผิดมาตรฐานอย่างร้ายแรงมาก ฟันของสุนัขต้องมีครบ ทั้ง 42 ซี่ ปากเป็นจุดที่กรรมการให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

            ดวงตา ของ Miniature Schnauzer มีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม และจะอยู่บริเวณ stop พอดี และควรมีความกว้างพอประมาณ ถ้าสุนัข มีดวงตาที่ใกล้กันเกินไปแสดงว่าสุนัขตัวนั้นมีกะโหลที่แคบเล็ก บางครั้งดวงตาอาจ มีขนาดเล็กเกินไป หรือไม่อยู่ในบริเวณที่ไม่ถูกต้อง แต่ความผิดปกติของดวงตา เช่นนี้เป็นความผิดปกติที่ไม่จัดว่าร้ายแรงนัก

            จมูก ของ Miniature Schnauzer จะต้องมีสีดำ และมีขนาดไม่เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับปาก เมื่อยังเป็นลูกสุนัขจมูกของบางตัวอาจมีสีชมพู แต่จะเปลี่ยนเป็นสีดำเมื่อ อายุมากขึ้นจมูกควรชื้นอยู่เสมอ

คอ

            ส่วนคอจะประกอบด้วย กระดูก 7 ชิ้น กระดูกสองชิ้นแรกจะเป็นจุเชื่อมต่อที่ด้านหลังของส่วนหัว ลำคอควรจะมีลักษณะเป็นส่วนโค้ง และมีความยาใกล้เคียงกับความยาวของส่วนหัว ความโค้งของคอจะต้องรับกับส่วนหัวโดยที่คอจะต้องโค้งและชูส่วนหัวขึ้นสูง เหมือนแสดงความภาคภูมิใจของเขา

            ผิวหนังบนลำคอต้องเรียบและตึง ที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต้องแสดงให้เห็นกล้ามเนื้อบริเวณหัวไหล่อย่างชัดเจน โดยที่กล้ามเนื้อหัวไหล่ จะเป็นส่วนที่เห็นชัดเจนแต่ไม่เด่นชัดมากจะทำให้ร่างกาย ดูไม่สมส่วนต้องมีความราบเรียบและนุ่มนวลอยู่บ้าง การที่สุนัขมีไหล่ที่สูงจะเป็นการเสริมความสวยงามของลำคอที่โค้งสวยได้รูป อย่าเลือกสุนัขที่มีไหล่ต่ำ เพราะจะทำลายความโค้งสวยของคอ ส่วนมากจะสังเกตได้ว่าสุนัขพวกนี้จะมีคอที่ค่อน ข้างเป็นเส้นตรง ส่วนฐานของคอจะเริ่มจากหัวไหล่ทั้งสองข้างโดยมีความกว้างในส่วนนี้ใกล้เคียงกับความกว้างของไหล่ ส่วนใต้ของลำคอจะไม่มีเหนียงหย่อนลงมาความผิด พลาดที่แย่ที่สุดคือสุนัขที่มีคอสั้นหนาเหมือนคอแกะ และสุนัขที่มีเหนียงยานมี หนังที่คอมากเกินไปแทนที่จะเป็นเส้นโค้งที่เรียบตึง





โครงสร้าง, เส้นหลัง และ หาง

            โครงสร้างประกอบด้วย แนวของกระดูกสันหลัง และส่วนกระดูกซี่โครง แนวกระดูกสันหลัง ตั้งแต่เส้นหลังไปจน ถึงหางแบ่งเป็น 6 ส่วน เริ่มจากส่วนแรก คือกระดูกที่คอ 7 ชิ้น ต่อมาคือกระดูกจากบริเวณที่สูงที่สุดของไหล่ 8 ชิ้น อีก 4 ชิ้น ตามด้วยส่วนหลังต่อไปที่ สะโพก 7 ชิ้น กระดูกที่ใช้เชื่อมต่อ 3 ชิ้นและสุดท้ายเป็นกระดูกหาง

            มาตรฐานการเชื่อมต่อของเส้นหลังหรือ Topline เป็น การเชื่อมต่อที่มีความลาดเอียงและเป็นเส้นโค้ง ที่อ่อนช้อย จากส่วนที่เชื่อมต่อกับหัวจนถึงหาง จะเป็นความโค้งสวยที่บริเวณลำคอ ถึงลำตัวและลาดเอียงจากจุดนั้นไปถึงหางกล้ามเนื้อหลังจะเป็นตัวพยุงลำคอและจะทำให้บริเวณนี้มีเส้นตรงไม่หย่อนหรือหลังต้องไม่แอ่นนั้นเอง ส่วนหางสำคัญมากที่จะต้องอยู่ในต่ำแน่งที่สูงพอ ไม่ต่ำกว่า Topline แนว เส้น หลังจะบรรจบ พอดีกับหางไม่มีส่วนที่โค้งลงเด็ดขาด ตำแหน่งหางที่ต่ำเป็นข้อด้อย ที่เห็นได้อย่างเด่นชัดและเป็นที่สะดุดตา ในการประกวดส่วนมากจะไม่ประสบความสำเร็จเพราะตำแหน่งหางที่ต่ำ

            เส้นหลังหรือ Topline ที่หนักแน่น และถูกต้อง จะต้องเห็นได้อย่างเด่นชัดทั้งในขณะยืนอยู่กับที่ และในขณะที่เคลื่อนไหว Topline เป็นส่วนที่สามารถรับประกันความ เสร็จของสุนัขได้ดีที่สุด

            อีกส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของโครงสร้างคือลักษณะของซี่โครง (ribs) ซี่โครงเป็นตัวกำหนดความแตกต่างของโครงสร้างและขนาดตัวของสุนัข กระดูกซี่โครงของ Miniature Schnauzer จะเป็นรูปไข่ ควรมีความกว้างที่สุดในส่วนกลาง ส่วนด้านหน้าจะมีความกว้างมากกว่าด้านหลังและส่วนหน้าประกอบด้วยกระดูก 5 ชิ้น จะมีความลึกลงไปถึงข้อศอกสำหรับสุนัขที่โตเต็มที่ ส่วนหลังจะแคบลง ไม่มากนักทำให้เมื่อมองจากด้านบนจะเห็นเป็นรูปเกือบสี่เหลี่ยมแต่จะมีความกว้างกว่าเอวเล็กน้อย หรือเกือบจะเท่ากัน ในส่วนที่อยู่ระหว่างซี่โครงและกระดูกเชิงกราน คือส่วนท้อง สุนัขเพศเมียจะยาวกว่าเพศผู้เล็กน้อย เพราะต้องมีพื้นที่ไว้สำหรับตั้งท้อง ซี่โครงที่มีขนาดกว้างเกินไปจะทำให้ข้อศอกกางออก เมื่อออกวิ่งขาหน้าจะเหยียดออกไปได้ไม่เต็มที่ ส่วนซี่โครงที่แคบเกินไป ซี่โครงที่แคบเกินไปจะทำให้ขาหน้าชิดกัน ขาหน้าจะไขว้กันขณะวิ่ง

4 ส่วนด้านหน้า

            สี่ส่วนด้านหน้าเริ่มจากกระดูกหัวไหล่ ลาดเอียงเป็นแนวไปถึงหลัง และทอดไปถึงส่วนอื่น ๆ ลงมาด้านข้างของลำตัวทั้งหมดควรมีความแน่นหนาและยึดติด นับรวมเป็นชิ้นเดียวกัน ตำแหน่งของกระดูก หัวไหล่จะวางทับบนกระดูกซี่โครง โดยที่กระดูกหน้าอก (บริเวณด้านหน้าขณะยืน) จะต้องอยู่ด้านหน้าของกระดูกด้านหน้าทั้งสองข้าง สามารถสังเกตได้จากการที่หน้าอกยื่นออกมาด้านหน้าเล็กน้อย กระดูกต้นแขนและกระดูกหัวไหล่จะมีขนาดที่ใกล้เคียงกัน และเชื่อต่อกันโดยทำมุม 90 องศา และส่วนมุมชี้ออกไปด้านหน้ากระดูกขาหน้าเป็นกระดูกที่ใหญ่ แข็งแรง และตรงข้อศอกชิดลำตัว และไม่มีส่วนอื่น ๆ ขัดขวางการเคลื่อนไหวของขาข้อ เท้ามีความสามารถยืดหยุ่น ทำให้มีสปริงข้อเท้าที่ดีในการส่งตัว ขณะก้าวไปข้างหน้าจาจะเหยียดออกไปเป็นเส้นตรงอย่างเต็มที่ ตำแหน่งที่ผิดพลาดของกระดูกเหล่านี้ จะเป็นอุปสรรค์ในการเคลื่อนไหวที่ดี

            ความผิดพลาดส่วนมากของร่างกาย ส่วนหน้ามาจากมุมของกระดูกหัวไหล่ที่ไม่ถูกต้อง มุม 90 องศาที่ กล่าวมาเป็นสิ่งสำคัญที่สร้างการเคลื่อนไหวที่ดี ถ้ามีมุมเชื่อมต่อที่มากกินไป ทำให้กระดูกหัวไหล่มีความตั้งชัน สุนัขจะมีหน้าอกที่แบนเรียบ ดูไม่แข็งแรง ถ้ามีมุมที่น้อยเกินไปจะทำให้หัวไหล่แบนราบ ไม่ช่วยส่งเสริมรูปคอทำให้ส่วนคอตั้ง ชันดูไม่สมส่วน

4 ส่วนด้านหลัง

            สี่ส่วนด้านหลังเกี่ยวกับความยาวและมุมของกระดูกเช่นกัน ทุกอย่างเป็นตัวเสริมการเคลื่อนไหว ให้มีความสมบูรณ์ ในอดีต Miniature Schnauzer ถูกใช้งานในการต้อนฝูงสัตว์ จึงต้องสร้างขาหลัง ให้ยาวเพื่อการก้าวขาที่ไกล

            โดยทั่วไปมุมของขาหลังจะมาก น้อยขึ้นอยู่กับความยาวของกระดูก Gaskin (กระดูกหน้าแข้ง และกระดูกน่อง) เปรียบเทียบกับกระดูก thigh (กระดูกโคนขา) เมื่อกระดูกทั้งสองมีความยาวที่เท่ากัน หรือใกล้เคียงกันมาก จะทำให้ขาของสุนัขดูตรง และตึงเกินไป แต่ถ้าสุนัขมีกระดูก gaskin ที่ยาวกว่าขาจะมีสัดส่วนของมุมที่ดีกว่า

กระดูกอีกส่วนที่มีความสำคัญมากคือ กระดูก Hocks (กระดูกข้อเท้า) ความยาวมีส่วนสำคัญ ถ้ามีความยาวน้อยหรือสั้นก็จะทำให้ขาหลังทั้งหมดมีความสมดุลมากกว่าที่มีความยาวมาก Hocks ที่มีความยาวจะทำให้เส้นหลังแอ่น บั้นท้ายของสุนัขจะยกสูง

            กล้ามเนื้อของขาหลังเป็นส่วนที่ต้องแข็งแรง จะสร้างการเดินที่มีพลัง แต่จะไม่มีกล้าเนื้อที่มากเกินไปจะทำให้ขาดูใหญ่และสั้นเมื่อเทียบกับลำตัว เมื่อมองจากด้านหลัง ขาหลังจะตรง เป็นเส้นตรงที่ลากจากส่วนสะโพก Hocks และเท้าควรตั้งตรงเป็นมุมฉาก กับพื้น (รูป A) hocks ที่พับเข้าหากันแต่เท้าแบะออก (รูป B) หรือ hocks ทีแยกออกจากกันแต่เท้าหุบเข้า (รูป C) ก็เป็นข้อผิดพลาด จะสังเกตได้ชัดเมื่อสุนัขเดิน

เท้า

            เท้าควรมีลักษณะเล็ก กลมและแน่น ไม่กางออก นิ้วกลางจะยาวกว่านิ้วอื่นเล็กน้อย การตัดเล็บเท้าให้สั้นอยู่เสมอจะช่วยรักษารูปทรงของเท้าไม่ให้กางออกได้ (ดู ภาพ ประกอบ รูป A) ส่วนรูป B นั้น เท้ามีลักษณะ กางออกหรือแบะออก ส่วนรูป C นั้นเท้ามีลักษณะหุบเข้าหากัน

หาง

            หางจะตัดออกให้เหลือประมาณ 3 ข้อกระดูก และตังฉากกับเส้นหลังหรือ Blackine เมื่อเดินหางจะอยู่ในตำแหน่งประมาณ 1 นาฬิกา หางที่อยู่ในตำแหน่งที่ตำกว่าเส้นหลัง จะเป็นตัวขัดขวางความสวยงามของสุนัขอย่างมาก หางที่ต่ำจะทำลายเส้นหลัง และโครงสร้างที่ดีของสุนัข ตำแหน่งหาง จึงเป็นส่วนสำคัญที่จะเปลี่ยน Show Ouality ให้กลายเป็น Pet Ouality ได้ทันที

การเคลื่อนไหว

            ความบกพร่องในการเคลื่อนไหว ส่วนมากจะเป็นการเดินเอียง การเดินที่ไม่มีการเหยียดขา การเดินงอเข่า หรือการ เดินก้าวสั้น ๆ Miniature Schnauzer เป็นสุนัขทำงาน การเดินที่ส่วนหน้าและส่วนหลังจะต้องดูสมบูรณ์ ดูแข็งแรง การก้าวขาต้องยาวและตรง ขาหน้าต้องเหยียดตรงขณะก้าว เข่าจะงอเล็กน้อย เฉพาะตอนส่งและเท่านั้น ขาหลังจะต้องถีบไปให้ไกลเช่นกัน แต่การวิ่งจะต้องไม่กระชาก ไม่แข็งกระด้าง มีความอ่อนช้อยอยู่บ้าง โดยเป็นผลจากสปริงข้อเท้าการวิ่งจะไม่วิ่งเหมือนม้าย่อง

            การเคลื่อนไหวของขาหน้าวัดความถูกต้องจากตำแหน่งของเท้าในขณะวิ่งหรือเดิน เท้าจะอยู่ในแนวเดียวกับข้อศอก ส่วนของขาหลังนั้นเท้าหลัง จะต้องเหยียบรอยเดียวกับเท้าหน้าหรือใกล้เคียงกับรอยเดิมของเท้าหน้าให้มากที่สุด

            ในเวลาเดียวกับที่ขาหน้าทำหน้าที่ดึงร่างกายให้ไปข้างหน้า ขาหลังจะก้าวมาสัมผัสกับพื้นในบริเวณกึ่งกลางของลำตัว และผลักร่างกายไปข้างหน้าขาหลังจะเคลื่อนไปด้านหลังผ่านบริเวณสะโพกออกไป ในแนวเดียวกับเส้นข้างของลำตัว และสร้างการดีดของกระดูก Hock (กระดูกข้อเท้า) เมื่อมองจากด้านหลัง ความกวางหรือระยะห่างของเท้าหลังทั้งสองเมื่อเดินหรือวิ่งควรเท่าหรือใกล้เคียงกับความกว้างของสะโพก

สี

            สีของ Miniature Schnauzer ที่เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปมี 3 สี สีที่มีมากที่สุดและหลากหลายที่สุดคือ

            Am.Ch. Wards Creek’s Lasso’s In Lace “Lacey” สี salt and pepper เป็นสีของขนชั้นนอกที่เป็นขนหยาบ ขนบริเวณขา หน้าอก หนวดเครา และคิ้ว จะมีสีขาว สี salt and pepper เป็นสีที่เกิดจากขนสามสี ด้วยกัน คือขนสีขาว ดำ และเทาเข้ม สุนัขที่มีสีเข้ม คือสุนัขที่มีขนสีดำมากสีอื่น และสุนัขที่มีสีอ่อนคือสุนัขที่มีขนสีขาวหรือสีเทาอ่อน ๆ มากกว่าสีอื่น ตามความจริงแล้วสี sait and pepper ควรมีทั้งสามสีในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน แต่ในปัจจุบันการผสมสุนัขข้างสีเป็นเรื่องปกติ สี salt and pepper จึงมีหลากหลายโทนสี และสามารถควบคุมได้ยาก สีแทนและสีแดงไม่ควรมีปะปนอยู่ด้วยเลย

            AM.CH.Tejas ALL About Me “VAIN” สี black and silvers เป็นสีที่การจัดวางเหมือน salt and pepper ขน บริเวณขา หนาอก หนวดเครา และคิ้ว จะมีสีขาว แต่ส่วนที่น่าจะเป็น salt and pepper จะมีสีดำอย่างเดียวไม่มีสีอื่น ปน

            Pen Am Grd. Pan Am. GBrd. Brs. Ch. JCh. ADAMIS BLACK SABBATH “OZZIE” สีดำ solid black เป็นสีเดียวที่กำหนดให้สุนัขต้องมีสีเดียวทั้งตัว ไม่มีจะแต้ม หรือ Making ใด ๆ และห้ามมีสีเทาหรือสีน้ำตาลแต้มเป็นอันขาด การทีมีจุดสีขาวเล็ก ๆ บริเวณหน้าอกเป็นที่ยอมรับได้ แต่ถ้าสุนัขมีเทาหรือสีน้ำตาลถือว่าผิดมาตรฐาน...

            ฉบับนี้ พอทราบเรื่อง STANDARD พอสังเขปแล้ว ฉบับต่อไป ผู้เขียนขอแนะนำ Miniature Schnauzer ตัวเด่น ๆ ดัง ๆ ของทุกประเทศทั่วโลก ทั้งในอดีต และปัจจุบัน ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เพื่อน ๆ พี่ ๆ จะหลงรัก Ms เพิ่มมากขึ้นนะครับ ^^






ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสาร Pet Journal



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
THE STANDARD MINIATURE SCHNAUZER อัปเดตล่าสุด 27 มิถุนายน 2555 เวลา 17:43:18 1,290 อ่าน
TOP