สุนัขพันธู์ลาห์ซา แอปโซ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
ใครที่เลี้ยงสัตว์คงจะเข้าใจดีว่า ยามที่สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราจากไปตามอายุขัยของมันนั้น ช่างเศร้าโศกทรมานจิตใจแค่ไหน แล้วยิ่งหากสัตว์เลี้ยงต้องมาตายด้วยอุบัติเหตุ หรือเพราะความประมาทเลินเล่อของคนบางคน มันยิ่งทำร้ายจิตใจและโศกเศร้าฝังใจเป็นที่สุด เหมือนอย่างที่นางเทเรซา กิลแลนด์ ที่ยืนยันจะต้องดำเนินคดีกับร้านแคลิฟอร์เนีย เพ็ทโค ให้ได้ แม้เรื่องราวจะผ่านไปถึง 3 ปีแล้วก็ตาม หลังจากทางร้านประมาทเลินเล่อทำให้สุนัขแสนรักของเธอตาย เพราะอาการฮีทสโตรกจากเครื่องเป่าแห้งกรงสุนัข
หลังจากมองหาทนายที่จะรับทำคดีเกี่ยวกับสัตว์มานานกว่า 2 ปี สุดท้าย นางกิลแลนด์ ก็ได้ทนายความจาก ซาน ฟรานซิสโก รับดำเนินการฟ้องร้องคดีนี้ให้ ตามรายงานจากเว็บไซต์เดลิเมล ของอังกฤษ ระบุว่า เมื่อบ่ายวันหนึ่งในเดือนกรกฎาคม ปี 2551 เธอได้นำเจ้า "แซนดี้" สุนัขพันธุ์ลาห์ซา แอปโซ วัย 6 ขวบ ไปที่ร้าน "แคลิฟอร์เนีย เพ็ทโค" ร้านตกแต่งขนสุนัขในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ตามนัดตัดแต่งขนประจำเดือน แต่เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเธอนำเจ้าแซนดี้ไปทิ้งไว้ ก็ได้รับโทรศัท์จากทางร้านว่า พบเลือดเปรอะเปื้อนอยู่ในกรงของเจ้าแซนดี้ และทางร้านได้ขอให้เธอมาพบเจ้า แซนดี้ ที่คลินิคสัตว์โดยเร็วที่สุด
เมื่อไปถึงที่คลินิค นางกิลแลนด์ แทบน้ำตาร่วง เมื่อเธอพบแซนดี้ในสภาพที่มีหน้ากากช่วยหายใจครอบอยู่ที่ปาก จากนั้นแซนดี้ถูกนำตัวส่งต่อไปที่โรงพยาบาลสัตว์ แต่น่าเสียดายที่ไม่สามารถยื้อชีวิตของเจ้าตูบตัวน้อยได้ สัตวแพทย์ลงความเห็นว่าเจ้าแซนดี้เสียชีวิต จากการหายใจลำบากเนื่องจากภาวะฮีทสโตรก หรือภาวะอุณหภูมิในร่างกายสูงเกินขีดจำกัด ซึ่งอุณภูมิร่างกายปกติของสุนัขจะอยู่ที่ 101-102 องศาฟาเรนไฮต์ (38.3-38.8 องศาเซลเซียส) แต่ขณะที่เจ้าแซนดี้ถูกส่งไปที่โรงพยาบาล มันมีอุณหภูมิในตัวสูงถึง 107 องศาฟาเรนไฮต์ (41.6 องศาเซลเซียส) เลยทีเดียว
หลังการจากไปของเจ้าแซนดี้ นางกิลแลนด์ ได้ขอตรวจดูกรงที่ทางร้านใช้ใส่เจ้าแซนดี้ พบว่ากรงนั้นมีร่องรอยคราบเลือด และร่องรอยการขีดข่วน โดยทางร้านได้กล่าวว่า เขาใส่เจ้าแซนดี้ไว้ในกรงที่มีเครื่องเป่ากรงแห้งอยู่ด้วย แต่กลับไม่ระบุชนิดของเครื่องเป่า หรืออุณหภูมิของลมจากเครื่องเป่าแห้งดังกล่าว ซึ่งหลังจากฟ้องร้องดำเนินคดีกับทางร้าน ฝ่ายทนายของนางกิลแลนด์ กล่าวว่า คาดว่าทางร้านน่าจะตั้งอุณหภูมิของเครื่องเป่าแห้งดังกล่าวไว้เกิน 100 องศาฟาเรนไฮต์แน่นอน
ทั้งนี้ มีร้านตัดขนสุนัขหลายแห่งที่ใช้เครื่องเป่ากรง เพื่อช่วยในการเป่าขนสุนัขให้แห้งหลังการอาบน้ำ โดยจะนำเครื่องเป่าแห้งไปใส่ไว้ในกรงที่จะนำสุนัขเข้าไปไว้ บางครั้งก็จะเปิดเครื่องเป่าเพียงลมธรรมดา แต่บางคราวก็มีการตั้งอุณหภูมิความร้อนด้วย ซึ่งเครื่องเป่าแห้งมีช่วงอุณหภูมิให้เลือกปรับได้หลายระดับ บางเครื่องนั้นยังสามารถตั้งเวลาเพื่อหยุดการทำงานของเครื่องได้ด้วย แต่หากอุณภูมิของเครื่องสูงเกินไปก็อาจทำให้นาฬิกาของเครื่องทำงานไม่ปกติได้ บวกกับความไม่เอาใจใส่ของผู้ให้บริการ ก็ย่อมเสี่ยงที่จะเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าเช่นนี้กับสัตว์เลี้ยงได้
ล่าสุด นางกิลแลนด์ ที่ยังคงยืนยันจะดำเนินคดีกับทางร้านให้ได้ กล่าวว่า ต้องการให้ทางร้านหยุดการใช้เครื่องเป่าแห้งนี้ หรืออย่างน้อยก็ต้องแจ้งเตือนแก่ลูกค้าทุกรายถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากเครื่องมือชิ้นนี้ "ฉันไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับเจ้าของหมาคนไหนอีก" เธอกล่าว แต่ทางร้านก็ปฏิเสธที่จะทำตามคำขอของนางกิลแลนด์ โดยอ้างว่า คำร้องของเธอไม่ได้รับการอนุมัติจากศาลตั้งแต่เดือนธันวาคม ปีที่ผ่านมาแล้ว
อย่างไรก็ดี เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ผู้พิพากษาคนหนึ่ง กล่าวว่า เรื่องของนางกิลแลนด์ จะได้รับการพิจารณาต่อ โดยจะมีการเบิกความในชั้นศาลอีกครั้งในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งทางรัฐนิวยอร์กกำลังจะออกกฎจำกัดการใช้เครื่องเป่ากรงแห้งนี้ หลังมีการผ่านร่างว่าด้วยการขอระงับการใช้เครื่องมือนี้ และกำลังอยู่ในขั้นตอนรอการพิจารณาจากวุฒิสภาของรัฐ
ไม่ว่าในที่สุดกฎหมายข้อนี้จะได้ออกมาบังคับใช้หรือไม่ แต่เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าผู้ให้บริการรับดูแลสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย ไม่ควรประมาทอย่างยิ่ง เพราะเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับชีวิต แม้จะเป็นเพียงสัตว์เลี้ยงก็ตาม...หลับให้สบายเถอะนะ เจ้าแซนดี้
