ขอขอบคุณภาพประกอบจาก pantip.com โดย คุณ Clouseau , facebook กองทุนร่วมด้วยช่วยแมว(หมา) : Cats & Dogs Rescue
จากกรณีที่มีคนใช้มีดสปาต้าฟันสุนัข จนเป็นแผลเหวอะหวะทั่วทั้งตัว เหตุเพราะเจ้าสุนัขตัวนั้นไปไล่เห่าจักรยานยนต์ของชายผู้หนึ่งที่มีภรรยาตั้งครรภ์ซ้อนท้ายล้มลง ล่าสุดเจ้าสุนัขดังกล่าว ปลอดภัยแล้ว ด้วยน้ำใจของคนไทยใจบุญที่หลั่งไหลช่วยบริจาคเงินค่ารักษาเข้ามากว่า 800,000 บาท
เหตุการณ์น่าสะเทือนใจที่สะท้อนถึงความโหดเหี้ยมในสังคมเป็นอย่างมาก เมื่อชายผู้หนึ่งขับรถจักรยานยนต์ที่พาภรรยาตั้งครรภ์นั่งซ้อนท้ายมาด้วย โดยตะกร้าหน้ารถมีสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลนั่งอยู่ในนั้น แต่เมื่อถึงไซต์งานก่อสร้างที่มีเจ้าหมาผู้โชคร้าย หรือ "เจ้าฟลุ๊ค" อยู่นั้น แต่เดิมเจ้าพุดเดิ้ลดังกล่าวและเจ้าฟลุ๊คเป็นคู่อริกันอยู่แล้ว เห็นกันเมื่อไรก็จะต้องกระโจนใส่กันทุกครั้ง ทำให้ เจ้าฟลุ๊ค กระโจนใส่รถจักรยานยนต์ดังกล่าว ส่งผลให้รถเสียหลักล้มลง ด้วยความบันดาลโทสะ ชายผู้นั้นจึงเอามีดสปาต้าไล่ฟัน เจ้าฟลุ๊ค ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้งยังเอาไม้หน้าสามตีซ้ำ จนคนงานในไซต์งานก่อสร้างต้องออกมาขอร้องให้ไว้ชีวิตเจ้าฟลุ๊ค ซึ่งชายผู้นั้นก็ยอม แต่ก็ได้ขู่อาฆาตเจ้าฟลุ๊คไว้ว่า.... "อย่ามาให้เห็นหน้า ถ้ามาให้เห็นเมื่อไร จะฆ่าให้ตาย"
และเมื่อเจ้าฟลุ๊คได้รับบาดเจ็บ คนงานก่อสร้างก็มีเงินไม่มากพอที่จะพาเจ้าฟลุ๊คไปหาสัตวแพทย์ เจ้าฟลุ๊คจึงนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้นทั้งวัน จนกระทั่งมีคนผ่านไปเห็นจึงได้ติดต่อกับ คุณธารินี วิภูชนิน หนึ่งในผู้ที่อยู่ในกองทุนให้กับแมวและสุนัขจรจัด ทางคุณธารินี ก็ได้ให้คนนำเจ้าฟลุ๊คส่งโรงพยาบาล และได้ตามมาดูแลอย่างใกล้ชิด
จากนั้นทางกองทุนก็ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าฟลุคผ่านเว็บไซต์ pantip.com ห้องจตุจักร ทำให้มีคนใจบุญช่วยเหลือเจ้าฟลุ๊ค เป็นอย่างมาก และล่าสุดยอดบริจาคเพื่อช่วยเหลือเจ้าฟลุ๊คมีจำนวนมากกว่า 800,000 บาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ คุณธารินี วิภูชนิน ได้กล่าวว่า ที่ได้โพสต์เรื่องของเจ้าฟลุ๊คในเว็บไซต์ pantip.com ประเด็นหลักไม่ใช่เรื่องเงิน เพียงต้องการให้สังคมได้รับรู้ถึงความโหดร้ายในสังคม และอยากให้เรื่องนี้ถึงผู้ใหญ่ที่พอจะมีอำนาจ ออกกฏหมายดูแลและคุ้มครองสัตว์ พร้อมมีบทลงโทษให้รุนแรงขึ้นกว่านี้ อย่างน้อยถ้าจะทำร้ายสัตว์ก็จะได้ชั่งใจ หรือยับยั้งใจบ้าง อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินที่ช่วยเหลือของเจ้าฟลุ๊ค ซึ่งตอนนี้มีจำนวนมากมาย ตนก็ขอขอบคุณ และจะนำเงินที่เหลือดังกล่าว ช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดต่อไป ส่วนทางเจ้าฟลุ๊ค เมื่อหายดีแล้ว ทางกองทุนก็จะจัดหาเจ้าของที่เหมาะสมไว้ให้
ด้านสัตวแพทย์ เผยถึงอาการของเจ้าฟลุ๊ค ในตอนแรกว่า บริเวณลำตัวมีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด ซึ่งจากรอยฟันของมีดสปาต้า ทำให้บาดแผลลึก และหนังขาดวิ่น อีกทั้งหูข้างขวา และจมูก โดนตัดจนแหว่ง ซึ่งเจ้าฟลุ๊คถูกนำส่งโรงพยาบาลหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บหนึ่งวัน และบาดแผลฉกรรจ์นั้น จำเป็นที่จะต้องเย็บภายใน 8 ชั่วโมง ถ้าเย็บก็ไม่ดี แต่ไม่เย็บก็ไม่ได้ ทางสัตว์แพทย์จึงได้ช่วยกันดูแลในการเย็บให้ดีที่สุด เพื่อให้แผลไม่ติดเชื้อ จนตอนนี้แผลของเจ้าฟลุ๊คแห้ง ไม่ติดเชื้อ และแข็งแรงขึ้นตามลำดับแล้ว
จากเรื่องราวอันแสนโหดร้ายดังกล่าว อย่างน้อยก็สะท้อนให้เห็นว่าในอีกมุมหนึ่งสังคมไทยยังมีคนใจบุญกับชีวิตเล็ก ๆ อย่างสุนัขจรจัดที่บางคนมองอาจมองเห็นมันไม่ต่างจากสิ่งของที่จะทำอย่างไรก็ได้ ...ยังไงก็ขอให้ เจ้าฟลุ๊ค แข็งแรงไว ๆ แล้วเจอเจ้าของที่ใจดี และรักเจ้าฟลุ๊คมาก ๆ ละกันนะจ๊ะ
จากกรณีที่มีคนใช้มีดสปาต้าฟันสุนัข จนเป็นแผลเหวอะหวะทั่วทั้งตัว เหตุเพราะเจ้าสุนัขตัวนั้นไปไล่เห่าจักรยานยนต์ของชายผู้หนึ่งที่มีภรรยาตั้งครรภ์ซ้อนท้ายล้มลง ล่าสุดเจ้าสุนัขดังกล่าว ปลอดภัยแล้ว ด้วยน้ำใจของคนไทยใจบุญที่หลั่งไหลช่วยบริจาคเงินค่ารักษาเข้ามากว่า 800,000 บาท
เหตุการณ์น่าสะเทือนใจที่สะท้อนถึงความโหดเหี้ยมในสังคมเป็นอย่างมาก เมื่อชายผู้หนึ่งขับรถจักรยานยนต์ที่พาภรรยาตั้งครรภ์นั่งซ้อนท้ายมาด้วย โดยตะกร้าหน้ารถมีสุนัขพันธุ์พุดเดิ้ลนั่งอยู่ในนั้น แต่เมื่อถึงไซต์งานก่อสร้างที่มีเจ้าหมาผู้โชคร้าย หรือ "เจ้าฟลุ๊ค" อยู่นั้น แต่เดิมเจ้าพุดเดิ้ลดังกล่าวและเจ้าฟลุ๊คเป็นคู่อริกันอยู่แล้ว เห็นกันเมื่อไรก็จะต้องกระโจนใส่กันทุกครั้ง ทำให้ เจ้าฟลุ๊ค กระโจนใส่รถจักรยานยนต์ดังกล่าว ส่งผลให้รถเสียหลักล้มลง ด้วยความบันดาลโทสะ ชายผู้นั้นจึงเอามีดสปาต้าไล่ฟัน เจ้าฟลุ๊ค ซ้ำแล้วซ้ำเล่า อีกทั้งยังเอาไม้หน้าสามตีซ้ำ จนคนงานในไซต์งานก่อสร้างต้องออกมาขอร้องให้ไว้ชีวิตเจ้าฟลุ๊ค ซึ่งชายผู้นั้นก็ยอม แต่ก็ได้ขู่อาฆาตเจ้าฟลุ๊คไว้ว่า.... "อย่ามาให้เห็นหน้า ถ้ามาให้เห็นเมื่อไร จะฆ่าให้ตาย"
และเมื่อเจ้าฟลุ๊คได้รับบาดเจ็บ คนงานก่อสร้างก็มีเงินไม่มากพอที่จะพาเจ้าฟลุ๊คไปหาสัตวแพทย์ เจ้าฟลุ๊คจึงนอนจมกองเลือดอยู่อย่างนั้นทั้งวัน จนกระทั่งมีคนผ่านไปเห็นจึงได้ติดต่อกับ คุณธารินี วิภูชนิน หนึ่งในผู้ที่อยู่ในกองทุนให้กับแมวและสุนัขจรจัด ทางคุณธารินี ก็ได้ให้คนนำเจ้าฟลุ๊คส่งโรงพยาบาล และได้ตามมาดูแลอย่างใกล้ชิด
จากนั้นทางกองทุนก็ได้โพสต์เรื่องราวของเจ้าฟลุคผ่านเว็บไซต์ pantip.com ห้องจตุจักร ทำให้มีคนใจบุญช่วยเหลือเจ้าฟลุ๊ค เป็นอย่างมาก และล่าสุดยอดบริจาคเพื่อช่วยเหลือเจ้าฟลุ๊คมีจำนวนมากกว่า 800,000 บาทเลยทีเดียว
ทั้งนี้ คุณธารินี วิภูชนิน ได้กล่าวว่า ที่ได้โพสต์เรื่องของเจ้าฟลุ๊คในเว็บไซต์ pantip.com ประเด็นหลักไม่ใช่เรื่องเงิน เพียงต้องการให้สังคมได้รับรู้ถึงความโหดร้ายในสังคม และอยากให้เรื่องนี้ถึงผู้ใหญ่ที่พอจะมีอำนาจ ออกกฏหมายดูแลและคุ้มครองสัตว์ พร้อมมีบทลงโทษให้รุนแรงขึ้นกว่านี้ อย่างน้อยถ้าจะทำร้ายสัตว์ก็จะได้ชั่งใจ หรือยับยั้งใจบ้าง อย่างไรก็ตาม สำหรับเงินที่ช่วยเหลือของเจ้าฟลุ๊ค ซึ่งตอนนี้มีจำนวนมากมาย ตนก็ขอขอบคุณ และจะนำเงินที่เหลือดังกล่าว ช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดต่อไป ส่วนทางเจ้าฟลุ๊ค เมื่อหายดีแล้ว ทางกองทุนก็จะจัดหาเจ้าของที่เหมาะสมไว้ให้
ด้านสัตวแพทย์ เผยถึงอาการของเจ้าฟลุ๊ค ในตอนแรกว่า บริเวณลำตัวมีบาดแผลฉกรรจ์หลายจุด ซึ่งจากรอยฟันของมีดสปาต้า ทำให้บาดแผลลึก และหนังขาดวิ่น อีกทั้งหูข้างขวา และจมูก โดนตัดจนแหว่ง ซึ่งเจ้าฟลุ๊คถูกนำส่งโรงพยาบาลหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บหนึ่งวัน และบาดแผลฉกรรจ์นั้น จำเป็นที่จะต้องเย็บภายใน 8 ชั่วโมง ถ้าเย็บก็ไม่ดี แต่ไม่เย็บก็ไม่ได้ ทางสัตว์แพทย์จึงได้ช่วยกันดูแลในการเย็บให้ดีที่สุด เพื่อให้แผลไม่ติดเชื้อ จนตอนนี้แผลของเจ้าฟลุ๊คแห้ง ไม่ติดเชื้อ และแข็งแรงขึ้นตามลำดับแล้ว
จากเรื่องราวอันแสนโหดร้ายดังกล่าว อย่างน้อยก็สะท้อนให้เห็นว่าในอีกมุมหนึ่งสังคมไทยยังมีคนใจบุญกับชีวิตเล็ก ๆ อย่างสุนัขจรจัดที่บางคนมองอาจมองเห็นมันไม่ต่างจากสิ่งของที่จะทำอย่างไรก็ได้ ...ยังไงก็ขอให้ เจ้าฟลุ๊ค แข็งแรงไว ๆ แล้วเจอเจ้าของที่ใจดี และรักเจ้าฟลุ๊คมาก ๆ ละกันนะจ๊ะ
