เพจสมาคมแมว แถลงจุดยืนเรื่องการเลี้ยงแมวสก็อตติช เลี้ยงต่อได้แต่ควรทำหมัน ไม่ควรขยายพันธุ์ เลิกหวังกำไรจากแมวที่ด้อยคุณภาพ
จากดราม่าที่เพจ WCF Thailand by ARC หรือ สมาคมแมว ภายใต้กฎระเบียบของ World Cat Federation (สหพันธ์แมวโลก) ออกมาโพสต์ตั้งคำถามว่าทำไมคนไทยถึงเลี้ยง แมวพันธุ์สก็อตติช ทั้งที่เป็นสายพันธุ์ที่ดูแลยาก และขยายพันธุ์ให้ดีได้ยาก โดยแนะนำว่าควรจะหันไปเลี้ยงสายพันธ์ุอื่น ๆ มากกว่า ทำบางส่วนวิจารณ์ถึงท่าทีดังกล่าวของเพจ แต่ต่อมาทางเพจยืนยันว่าพร้อมจะให้ทัวร์ลงหากคนจะหันมาเข้าใจแมวสายพันธ์ุนี้ให้มากขึ้นนั้น
อ่านข่าว : สมาคมแมว ซัดคนไทยไร้ความรู้ แต่หาเลี้ยงแมวสก็อตติช แอดมินลั่น ยินดีรับทัวร์ !
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 27 กันยายน 2564 เพจ WCF Thailand by ARC ได้ออกแถลงการณ์โดยระบุว่า เพื่อความชัดเจนในจุดยืนของสมาคม ในเรื่องแมวสก็อตติชนั้น สมาคมขออธิบาย ดังนี้
1. สมาคมไม่มีนโยบายสนับสนุนการเลี้ยงและขยายพันธุ์แมวสก็อตติช โฟลด์ สำหรับบุคคลทั่วไป
2. สมาคมไม่มีนโยบายยืดหยุ่นหรือผ่อนผันให้มีการขยายพันธุ์แมวสก็อตติช โฟลด์ อันขัดต่อประกาศฉบับที่ 9/2563
สำหรับ ประกาศสมาคมการค้าแมวจดทะเบียน ฉบับที่ 9/2563 เรื่อง นโยบายออกเอกสารเพ็ดดิกรีสำหรับแมวสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์และบริติช ช็อตแฮร์ ระบุว่า
ตามที่สหพันธ์แมวโลก (World Cat Federation - WCF) ได้ก่อตั้งและดําเนินงานโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม การเลี้ยงและอนุรักษ์สายพันธุ์แมวแต่ละชนิดให้คงเอกลักษณ์ประจําสายพันธุ์ต่อไปได้นั้น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ WCF สมาคมการค้าแมวจดทะเบียน (Trade Association of Registered Cats - ARC) จึงประกาศนโยบายการออก เอกสารเพ็ดดิกรีสําหรับแมวสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold) และสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) เพิ่มเติม
1. ห้ามผสมพันธุ์แมวสายพันธุ์สก็อตติชหูตั้ง (Scottish Straight) เข้ากับสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) เนื่องจากจะได้ลูกแมวสก็อตติชหูตั้งทั้งหมด ซึ่งไม่เป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์แมวสก็อตติช โฟลด์ที่มีลักษณะหูพับสนิทเป็นเอกลักษณ์ประจําสายพันธุ์
2. ห้ามผสมพันธุ์แมวสายพันธุ์สก็อตติชหูตั้ง (Scottish Straight) เข้ากับแมวสายพันธุ์สก็อตติชหูตั้ง (Scottish - Straight) ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวไปแล้วในข้อ 1
3. ในกรณีขอออกเอกสารเพ็ดดิกรีแมวสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold) หากพบว่าแมวมีลักษณะหูดีดสมาคมจะออกเอกสารโดยระบุข้อความ Not for Breeding เท่านั้น
4. ห้ามผสมพันธุ์แมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) ที่มีตาสายสีเขียวเข้ากับตาสายสีส้ม เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อคุณภาพสีขนของลูกแมว
ทั้งนี้ สมาคมจะออกเอกสารเพ็ดดิกรีให้แก่ลูกแมวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ในลักษณะดังกล่าว โดยระบุข้อความ Not for Breeding คือไม่สามารถนําลูกแมวไปผสมพันธุ์ต่อได้อีก โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
แถลงล่าสุดของสมาคมฯ ระบุช่วงหนึ่งว่า สังคมแมวสก็อตติชในประเทศไทยอยู่ในจุดวิกฤต ขาดความตระหนักว่าแมวสก็อตติชคือแมวพิการทางกระดูก พร้อมทั้งอยากเรียกร้องให้รักษาอัตลักษณ์สำคัญของแมวสก็อตติช คือต้องมีหูพับลงมาแนบกะโหลก และถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็อยากให้บุคคลทั่วไปหลีกเลี่ยงการขยายพันธุ์แมวพันธุ์นี้ หรือเลี้ยงแบบทำหมัน สมาคมมีนโยบายให้แมวสก็อตติชได้รับการขยายพันธุ์โดยผู้ชำนาญการเท่านั้น เพราะไม่สามารถเพิกเฉยต่อการถดถอยของคุณภาพแมวได้อีกต่อไป
กรณีดังกล่าว สมาคมฯ ไม่ได้หมายความให้ไปฆ่าแมวที่ตกเกรด แต่หมายถึงต้องเสียสละเลิกหวังผลกำไรจากแมวที่ด้อยคุณภาพ ต้องช่วยกันหยุดความเสื่อมด้วยการหยุดผลิต หยุดซื้อ หยุดขาย และทำหมันแมว เลี้ยงแมวด้วยความรักแต่อย่านำไปขยายพันธุ์ต่อ เชื่อว่าจากการทำงานที่เข้มงวดแบบนี้ จะส่งผลให้แมวสก็อตติชที่ออกใบเพ็ดดิกรีโดย ARC ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จะมีความสวยงาม แข็งแรง ถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์ และเป็นการยกระดับโดยรวมของแมวสก็อตติช ตามระบบ WCF ในประเทศไทยได้
ขณะที่ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 เพจ WCF Thailand by ARC เคยให้ความรู้เรื่องปัญหาสุขภาพและความอ่อนแอของแมวสก็อตติช โดยใจความคือ แมวสก็อตติชหูพับ มาจากยีนที่ส่งผลให้แมวมีปัญหาเรื่องกระดูกอ่อน อาจจะเป็นบริเวณหู ข้อเท้า หรือหาง ส่งผลให้แมวอาจเจ็บกระดูกเวลาเคลื่อนไหว อาการแบบนี้มักมีสัญญานให้เห็นหลังแมวอายุ 1 ปีขึ้นไป ดังนั้นการผสมแมว หูพับ + หูพับ จะได้แมวที่ป่วยหนักเรื่องกระดูก อาจทำให้แมวมีอาการผิดปกติที่ข้อกระดูก ขา หรือหาง เป็นต้น
ภาพจาก เพจ WCF Thailand by ARC
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจ WCF Thailand by ARC
จากดราม่าที่เพจ WCF Thailand by ARC หรือ สมาคมแมว ภายใต้กฎระเบียบของ World Cat Federation (สหพันธ์แมวโลก) ออกมาโพสต์ตั้งคำถามว่าทำไมคนไทยถึงเลี้ยง แมวพันธุ์สก็อตติช ทั้งที่เป็นสายพันธุ์ที่ดูแลยาก และขยายพันธุ์ให้ดีได้ยาก โดยแนะนำว่าควรจะหันไปเลี้ยงสายพันธ์ุอื่น ๆ มากกว่า ทำบางส่วนวิจารณ์ถึงท่าทีดังกล่าวของเพจ แต่ต่อมาทางเพจยืนยันว่าพร้อมจะให้ทัวร์ลงหากคนจะหันมาเข้าใจแมวสายพันธ์ุนี้ให้มากขึ้นนั้น
อ่านข่าว : สมาคมแมว ซัดคนไทยไร้ความรู้ แต่หาเลี้ยงแมวสก็อตติช แอดมินลั่น ยินดีรับทัวร์ !
1. สมาคมไม่มีนโยบายสนับสนุนการเลี้ยงและขยายพันธุ์แมวสก็อตติช โฟลด์ สำหรับบุคคลทั่วไป
2. สมาคมไม่มีนโยบายยืดหยุ่นหรือผ่อนผันให้มีการขยายพันธุ์แมวสก็อตติช โฟลด์ อันขัดต่อประกาศฉบับที่ 9/2563
สำหรับ ประกาศสมาคมการค้าแมวจดทะเบียน ฉบับที่ 9/2563 เรื่อง นโยบายออกเอกสารเพ็ดดิกรีสำหรับแมวสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์และบริติช ช็อตแฮร์ ระบุว่า
ตามที่สหพันธ์แมวโลก (World Cat Federation - WCF) ได้ก่อตั้งและดําเนินงานโดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริม การเลี้ยงและอนุรักษ์สายพันธุ์แมวแต่ละชนิดให้คงเอกลักษณ์ประจําสายพันธุ์ต่อไปได้นั้น เพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของ WCF สมาคมการค้าแมวจดทะเบียน (Trade Association of Registered Cats - ARC) จึงประกาศนโยบายการออก เอกสารเพ็ดดิกรีสําหรับแมวสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold) และสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) เพิ่มเติม
1. ห้ามผสมพันธุ์แมวสายพันธุ์สก็อตติชหูตั้ง (Scottish Straight) เข้ากับสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) เนื่องจากจะได้ลูกแมวสก็อตติชหูตั้งทั้งหมด ซึ่งไม่เป็นการอนุรักษ์สายพันธุ์แมวสก็อตติช โฟลด์ที่มีลักษณะหูพับสนิทเป็นเอกลักษณ์ประจําสายพันธุ์
2. ห้ามผสมพันธุ์แมวสายพันธุ์สก็อตติชหูตั้ง (Scottish Straight) เข้ากับแมวสายพันธุ์สก็อตติชหูตั้ง (Scottish - Straight) ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวไปแล้วในข้อ 1
3. ในกรณีขอออกเอกสารเพ็ดดิกรีแมวสายพันธุ์สก็อตติช โฟลด์ (Scottish Fold) หากพบว่าแมวมีลักษณะหูดีดสมาคมจะออกเอกสารโดยระบุข้อความ Not for Breeding เท่านั้น
4. ห้ามผสมพันธุ์แมวสายพันธุ์บริติช ช็อตแฮร์ (British Shorthair) ที่มีตาสายสีเขียวเข้ากับตาสายสีส้ม เนื่องจากจะส่งผลเสียต่อคุณภาพสีขนของลูกแมว
ทั้งนี้ สมาคมจะออกเอกสารเพ็ดดิกรีให้แก่ลูกแมวที่เกิดจากการผสมพันธุ์ในลักษณะดังกล่าว โดยระบุข้อความ Not for Breeding คือไม่สามารถนําลูกแมวไปผสมพันธุ์ต่อได้อีก โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป จึงขอประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
แถลงล่าสุดของสมาคมฯ ระบุช่วงหนึ่งว่า สังคมแมวสก็อตติชในประเทศไทยอยู่ในจุดวิกฤต ขาดความตระหนักว่าแมวสก็อตติชคือแมวพิการทางกระดูก พร้อมทั้งอยากเรียกร้องให้รักษาอัตลักษณ์สำคัญของแมวสก็อตติช คือต้องมีหูพับลงมาแนบกะโหลก และถ้าหลีกเลี่ยงได้ ก็อยากให้บุคคลทั่วไปหลีกเลี่ยงการขยายพันธุ์แมวพันธุ์นี้ หรือเลี้ยงแบบทำหมัน สมาคมมีนโยบายให้แมวสก็อตติชได้รับการขยายพันธุ์โดยผู้ชำนาญการเท่านั้น เพราะไม่สามารถเพิกเฉยต่อการถดถอยของคุณภาพแมวได้อีกต่อไป
กรณีดังกล่าว สมาคมฯ ไม่ได้หมายความให้ไปฆ่าแมวที่ตกเกรด แต่หมายถึงต้องเสียสละเลิกหวังผลกำไรจากแมวที่ด้อยคุณภาพ ต้องช่วยกันหยุดความเสื่อมด้วยการหยุดผลิต หยุดซื้อ หยุดขาย และทำหมันแมว เลี้ยงแมวด้วยความรักแต่อย่านำไปขยายพันธุ์ต่อ เชื่อว่าจากการทำงานที่เข้มงวดแบบนี้ จะส่งผลให้แมวสก็อตติชที่ออกใบเพ็ดดิกรีโดย ARC ในอีก 1-2 ปีข้างหน้า จะมีความสวยงาม แข็งแรง ถูกต้องตามมาตรฐานสายพันธุ์ และเป็นการยกระดับโดยรวมของแมวสก็อตติช ตามระบบ WCF ในประเทศไทยได้
ขณะที่ เมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2563 เพจ WCF Thailand by ARC เคยให้ความรู้เรื่องปัญหาสุขภาพและความอ่อนแอของแมวสก็อตติช โดยใจความคือ แมวสก็อตติชหูพับ มาจากยีนที่ส่งผลให้แมวมีปัญหาเรื่องกระดูกอ่อน อาจจะเป็นบริเวณหู ข้อเท้า หรือหาง ส่งผลให้แมวอาจเจ็บกระดูกเวลาเคลื่อนไหว อาการแบบนี้มักมีสัญญานให้เห็นหลังแมวอายุ 1 ปีขึ้นไป ดังนั้นการผสมแมว หูพับ + หูพับ จะได้แมวที่ป่วยหนักเรื่องกระดูก อาจทำให้แมวมีอาการผิดปกติที่ข้อกระดูก ขา หรือหาง เป็นต้น
ภาพจาก เพจ WCF Thailand by ARC
ขอบคุณข้อมูลจาก เพจ WCF Thailand by ARC