เอ็นดัล ลาบราดอร์นักบริการ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก sitevip.net, disney.wikia.com, thedailytail.com, petsugar.com, wikipedia.org, matome.naver.jp, facebook|owney, notrehistoire.ch, youtube.com, hubpages.com, facebook.com|Endal
หลังจากนำเสนอเหล่า เหมียวซุป\'ตาร์ กันไปแล้ว ก็อย่าให้น้อยหน้า จัดทำเนียบน้องหมาชื่อดังมาให้ดูให้ชมกันบ้าง ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ถูกครหาจากคนรักหมาทั้งหลาย (อิอิ)
แต่เมื่อมาไล่เรียงบัญชีน้องหมาชื่อดัง ก็พบว่ามีอยู่มากมายร่ายไม่หมดจริง ๆ ค่ะคุณขา ดังนั้น จึงขอคัดเฉพาะน้องหมาดาวเด่นขวัญใจมหาชนคนทั่วโลก มาไว้ ณ ที่นี้ ลองไปทำความรู้จักและพิศมัยในความน่ารักของทัพ "ตูบซุป\'ตาร์" กันเลยจ้าาาาาาาาา
1. สนูปปี้ บีเกิ้ลที่ดังที่สุดในโลก
สนูปปี้ เป็นสุนัขบีเกิ้ลตัวแรก ๆ ที่ใครหลายคนรู้จัก มันเป็นตัวการ์ตูนน้องหมาสุดคลาสสิคอีกตัวหนึ่งของโลก จากจินตนาการของ ชาร์ล ชูลส์ โดย สนูปปี้ ปรากฎตัวครั้งแรกในการ์ตูนชุดพีนัทส์ ช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ.2493 หรือเป็นเวลา 60 ปีมาแล้ว
เดิมที สนูปปี้ เป็นเพียงหมาตัวเล็กขาสั้นหูปรกธรรมดา ๆ ที่น่ารักตัวหนึ่ง ก่อนจะถูกพัฒนาให้เป็นสุนัขที่ยืนสองขาได้ และมีความรู้สึกนึกคิดไม่ต่างจากคน มันชอบสอดรู้สอดเห็น และเอาใจใส่ต่อสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว ทั้งยังมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก ผิดกับชาลี บราวน์ เด็กชายหัวกลมเจ้านายของมัน ซึ่งเป็นคนขี้แพ้ แต่จิตใจดี
นอกจากนี้ สนูปปี้ ยังเก่งด้านศิลปะและดนตรี แต่มันก็มักไม่ค่อยได้ทำ เพราะส่วนมากจะหมดเวลาไปกับการฝันกลางวันบนหลังคาบ้านสีแดงเล็ก ๆ ของตัวเองเสียมากกว่า
2. กู๊ฟฟี่ เพื่อนซี้ของ มิคกี้ เมาส์
ความโด่งดังของ มิคกี้ เมาส์ นำมาซึ่งชื่อเสียงของ กู๊ฟฟี่ เพื่อน(หมา)สุดซี้ ของเจ้าหนูชื่อดัง เขาเป็นตัวช่วยสร้างสีสันของเรื่อง ด้วยคาแรกเตอร์ที่ตลกและสนุกสนาน คอยสร้างความครื้นเครงให้กับผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา แม้ว่าบ่อยครั้ง กู๊ฟฟี่ จะชอบกวนใจ มิคกี้ แต่เขาก็ช่วยคลายเศร้าให้กับ มิคกี้ ได้ด้วยเหมือนกัน
ทั้งนี้ กู๊ฟฟี่ ปรากฎตัวครั้งแรกในปี พ.ศ.2475 แต่งกายด้วยชุดสีแดงคล้ายกับชุดนอน และสวมเสื้อคลุมไม่มีแขนสีฟ้า เขาถูกสร้างเลียนแบบมนุษย์ ดังนั้น จึงสามารถเดินสองขาและพูดได้ และหากได้กินถั่วชนิดพิเศษ กู๊ฟฟี่ ก็จะเปลี่ยนเป็น ซูเปอร์กู๊ฟ มีพลังเหมือน ซูเปอร์แมน สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างรวดเร็ว
3. แลซซี่ คอลลี่ชื่อดังจากเรื่องสั้น สู่หนังทำเงิน
แลซซี่ น้องหมาพันธุ์คอลลี่ เพศเมีย ถูกปลุกจากเรื่องสั้นที่เขียนลงในหนังสือพิมพ์อังกฤษ ให้มาโลดแล่นอยู่บนจอเงิน และจอแก้ว บ่อยครั้งจนกลายเป็นขวัญใจของคนทั่วโลก
โดยเรื่องราวของ แลซซี่ เกิดขึ้นในยุคก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 เจ้านายจำใจต้องขาย แลซซี่ เพราะไม่มีเงินซื้ออาหาร แต่ด้วยความรักเจ้านายมาก แลซซี่ จึงหาทางกลับมาบ้านจนได้ ซึ่งพล็อตเรื่องถูกอกถูกใจฮอลลีวูด จนนำมาสู่การสร้างหนังใหญ่ในชื่อ Lassie Come Home ในปี พ.ศ. 2486 ก่อนจะมีภาคต่อ Son of Lassie พ.ศ. 2488 และ Courage of Lassie พ.ศ. 2489
จากความนิยมอย่างสูงเรื่อยมา ทำให้ แลซซี่ กลายเป็น 1 ใน 3 น้องหมาชื่อดังที่ไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ได้รับการจารึกชื่อไว้ที่ Hollywood Walk of Fame ณ นครลอสแอนเจลิส นอกเหนือจาก รินตินติน และสตรองฮาร์ท
4. ฮาร์ตคุง ชิวาวาลายหัวใจ
หลังจากนั้น เจ้าฮาร์ตคุง ก็ได้รับความสนใจอีกครั้ง เมื่อแม่ของมันคลอดน้องสายเลือดเดียวกันออกมาอีก 4 ตัว ซึ่งหนึ่งในนั้น มีลายหัวใจข้างลำตัวเหมือนกันกับ เจ้าฮาร์ตคุง ด้วยเหตุนี้ เอมิโกะ ซากุราดะ ผู้เป็นเจ้าของ จึงตั้งชื่อให้สมาชิกลายหัวใจตัวใหม่ว่า เลิฟคุง โดยเชื่อว่า ลายหัวใจที่ตัวฮาร์ตคุง และเลิฟคุง จะนำโชคมาให้เธออย่างแน่นอน
5. เจมส์ ตูบบูลด็อก คู่หูลิง ปังคุง
มักจะคอยสร้างปัญหาให้กับ ปังคุง ในแทบทุกภารกิจที่ได้รับ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เจมส์ คือคู่หูที่ลงตัวใน ขำกลิ้งลิงกับหมา รายการทีวีจากแดนปลาดิบที่ฮอตฮิตไปในหลายประเทศ รวมทั้งเมืองไทยเอง เจมส์ และปังคุง ก็เคยเป็นขวัญใจอยู่ในช่วงระยะเวลาหนึ่งด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ เจมส์ และปังคุง เป็นสัตว์ที่ได้รับการฝึกจากคุณ มิยาซาวะ ผู้เป็นเจ้าของซึ่งเรียบจบมาทางด้านปศุสัตว์ โดยในช่วงที่ยังเป็นดาราเรียลลิตี้หน้าจอทีวีนั้น เจมส์ ยังเป็นสุนัขพันธุ์บูลด็อกวัยละอ่อน ตัว(สี)ขาวหุ่นอวบล่ำ สะพายกระเป๋าเป้สีน้ำเงิน ส่วน ปังคุง ก็เป็นลูกลิงชิมแปนซี หน้าตาใจดีและฉลาด ทั้งคู่จะคอยช่วยเหลือพึ่งพากัน บ้างก็พากันเล่นซน และมีทะเลาะกันบ้างในบางเวลา แต่ในท้ายสุดแล้วความรักความผูกพันก็ยังหล่อหลอมความเป็นเพื่อนและพี่น้องของทั้งคู่เอาไว้
ปัจจุบัน เจมส์ เป็นคุณพ่อ(ตูบ) วัย 7 ปี ตัวใหญ่โต ส่วน ปังคุง ในวัย 9 ปี ก็ยังคงเป็นเพื่อนซี้ของ เจมส์ ทั้งยังเลี้ยงลูก ๆ ของเจมส์ ที่จอมยุ่งแสนซนไม่แพ้พ่อเลยทีเดียว
6. โอนนี่ น้องหมานักเที่ยวแห่งไปรษณีย์รถไฟสหรัฐฯ 
ต่อมาเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์จึงเกิดไอเดียติดแท็กโลหะให้กับ โอนนี่ เพื่อให้รู้ว่ามันไปที่ไหนมาแล้วบ้าง ซึ่งในสมัยก่อนจะมีการติดแท็กที่ถุงไปรษณีย์ แต่ด้วยระยะทางการเดินทางท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้แท็กที่ปลอกคอของโอนนี่เริ่มหนักขึ้น จนต้องตัดเสื้อกั๊กให้ใส่เพื่อติดแท็กแทน และตลอดช่วงชีวิต โอนนี่ ได้ติดแท็กรวม 1,017 อัน
ที่สำคัญ นอกจากการท่องดินแดนอเมริกาอันกว้างใหญ่แล้ว โอนนี่ ยังเคยเดินทางรอบโลกด้วยการโดยสารไปกับเรือไปรษณีย์ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิคไปยังญี่ปุ่นและจีน รวมถึงอีกหลาย ๆ ประเทศ ซึ่งแม้ในช่วงบั้นปลายของชีวิต เจ้าโอนนี่ ก็ยังคงกระโดดขึ้นรถไฟไปเที่ยวตามใจชอบ จนกระทั่งมีข่าวว่ามันถูกยิงตายในปี ค.ศ.1897
ทั้งนี้ ทางกรมไปรษณีย์ของอเมริกา ได้นำร่างของ โอนนี่ มาสตัฟฟ์เก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ไปรษณีย์ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อเป็นการระลึกถึงน้องหมาที่เป็นเหมือนมาสค็อตของกรมไปรษณีย์ และมีการออกแสตมป์เป็นรูปของเจ้าโอนนี่ด้วย
7. ไลก้า สุนัขอวกาศตัวแรกของโลก
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็น สุนัขอวกาศตัวแรกของโลก แต่เรื่องราวของ เจ้าไลก้า ก็ช่างน่าเศร้านัก เพราะการเดินทางออกนอกโลกของ ไลก้า ในครั้งนั้น หมายถึงมันต้องจบชีวิตลง...
หลังจากรัสเซียประสบความสำเร็จในการส่งดาวเทียมสปุตนิก 1 ขึ้นโคจรในอวกาศเป็นครั้งแรกของโลก เมื่อเดือนตุลาคม ปี พ.ศ.2500 ต่อมาจึงผุดโครงการ สปุตนิก 2 ขึ้นสู่อวกาศในปลายปีเดียวกัน โดยครั้งหลังนี้มีไอเดียใหม่ในการทดลองนำสุนัขขึ้นไปด้วย และเจ้าไลก้า สุนัขพันธุ์ทางเพศเมีย วัยเพียง 2 ขวบ ก็ถูกรับเลือกในภารกิจดังกล่าว
ตามรายงานระบุว่า ไลก้า ตายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่ยานสปุตนิก 2 ขึ้นไปในอวกาศ เนื่องจากระบบทำความเย็นภายในยานเสีย ซึ่งความจริงนี้มาเปิดเผยเมื่อปี พ.ศ.2545 จากปากของหนึ่งในทีมงานสปุตนิก 2 โดยก่อนหน้านั้น รัสเซีย ให้ข่าวว่า ไลก้า อยู่บนยานนานนับสัปดาห์ก่อนจะเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม องค์กรพิทักษ์สัตว์ของตะวันตก ได้ออกมาประณามการกระทำดังกล่าว เพราะไม่ว่า ไลก้า จะตายช้าหรือเร็ว แต่ยานสปุตนิก ไม่ได้ออกแบบให้เดินทางกลับมายังโลก...นั่นแสดงว่าเป็นการส่ง ไลก้า ไปสู่ความตายนั่นเอง
8. แบร์รี่ หมานักบุญ ช่วยชีวิตคนติดพายุหิมะ 
จากตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมาทำให้เราทราบว่า น้องหมาร่างใหญ่ใจดี พันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด เป็นสุนัขนักบุญที่อยู่กับบาทหลวง และมีหน้าที่ในการกู้ภัยผู้คนมากมายจากพายุหิมะ
สำหรับน้องหมาเซนต์เบอร์นาร์ด ที่มีชื่อเสียงและเป็นตัวอย่างสุนัขที่คนกล่าวถึงมานานคือ เจ้าแบร์รี่ BARRY ที่สามารถช่วยคนที่ติดพายุหิมะได้มากถึง 40 คน ในช่วงระยะเวลา 14 ปี โดย แบร์รี่ เสียชีวิตลงในปี พ.ศ.2357 และประวัติของมันก็ได้รับการจารึกไว้ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติ กรุงเบิร์น ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
9. น้องหมาเสี่ยงชีวิตช่วยเพื่อนตูบ ถูกรถชนกลางถนน
เป็นเพียงสุนัขจรจัดข้างถนนที่ไม่มีใครรู้จักชื่อ และไม่มีใครได้พบเห็นมันอีกเลย แต่วีรกรรมของน้องหมาตัวนี้ก็เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เมื่อภาพวงจรปิดบนถนนทางหลวงสายหนึ่งในชิลี จับภาพที่มันวิ่งฝ่าดงรถอันแสนพลุกพล่าน ไปช่วยเพื่อนตูบที่ถูกรถชนนอนแน่นิ่งอยู่กลางถนน ก่อนจะพยายามลากร่างของสุนัขตัวนั้นไปไว้ที่เกาะกลางถนนจนสำเร็จ
แม้ว่าในท้ายที่สุดเพื่อนของมันจะจากไปจากอุบัติเหตุดังกล่าว แต่การกระทำเยี่ยงวีรบุรุษของน้องหมาตัวนี้ ก็สะท้อนให้เห็นถึงความรัก ความกล้าหาญ อย่างไม่คิดถึงชีวิตของตัวเอง ซึ่งทั้งหมดนี้มีค่ามากกว่าการเป็นเพียงแค่ "หมาข้างถนน" เพราะมันได้กลายเป็นฮีโร่ในใจใครหลายคนไปเรียบร้อยแล้ว
10. ฮาจิโกะ สุดยอดสุนัขซื่อสัตย์ รอเจ้านายจนลมหายใจสุดท้าย
เรื่องราว ฮาจิโกะ สุนัขพันธุ์อาคิตะ จากประเทศญี่ปุ่น กลายเป็นตำนานที่สร้างความประทับใจไปทั่วโลก และถูกนำไปสร้างเป็นละคร การ์ตูน รวมถึงภาพยนตร์มาแล้วหลายครั้งหลายคราว อันเนื่องจากความจงรักภักดีของ ฮาจิโกะ ที่มีต่อเจ้านาย โดยในทก ๆ วันที่ ศาสตราจารย์ เอซะบุโระ อุเอะโนะ เจ้านายของมันต้องไปสอนหนังสือ ฮาจิโกะ ก็จะเดินไปส่งที่สถานีรถไฟชิบูยะ และเมื่อถึงเวลาเลิกงาน 15.00 น. มันก็จะไปรอรับเจ้านายเสมอ จนเป็นที่ชินตาของคนละแวกนั้น
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อศาสตราจารย์ อุเอะโนะ เกิดอาการเส้นโลหิตในสมองแตก และเสียชีวิตขณะอยู่ที่มหาวิทยาลัย ส่วนเจ้าฮาจิโกะ ก็ยังคงมารอเจ้านายที่สถานีรถไฟ โดยไม่มีทางรู้ได้เลยว่า มันจะไม่ได้พบกับเจ้านายอีกแล้ว และแม้จะไม่ได้พบหน้าเจ้านายอีกนับจากนั้น ฮาจิโกะ ก็ยังคงวิ่งไปรอเจ้านายที่สถานีรถไฟไม่เคยขาด สร้างความสะเทือนใจให้กับผู้ที่รับรู้เรื่องราวของมันเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การตีพิมพ์ลงบนหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น และการสร้างรูปหล่อเพื่อเป็นสัญลักษณ์ความซื่อสัตย์ให้กับฮาจิโกะ
กระทั่งในเดือนมีนาคม ค.ศ.1935 มีคนพบว่า ฮาจิโกะ นอนตายยังจุดที่มันคอยมารอเจ้านายของมันทุกวันมานานกว่า 10 ปี ซึ่งข่าวการจากไปของฮาจิโกะ ถือว่าเป็นข่าวใหญ่มาก ถูกตีพิมพ์ลงบนหน้า 1 หนังสือพิมพ์ญี่ปุ่น และร่างของฮาจิโกะก็ถูกนำไปเก็บรักษาเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ กรุงโตเกียว
อนุสาวรีย์ ฮาจิโกะ
11. เจ้าเอ็นดัล มหัศจรรย์ลาบราดอร์ 
สำหรับ อัลเลน พาร์ตัน อดีตนาวิกโยธินหนุ่มชาวอังกฤษที่ถูกปลดประจำการอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุจนต้องนั่งอยู่บนวีลแชร์ เขามีเจ้า เอ็นดัล สุนัขพันธุ์ลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เพศผู้ คอยเป็นตัวช่วยที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของเขาง่ายขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น การทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ซื้อของที่ร้านค้า ส่งจดหมาย รับโทรศัพท์ กดเงินจากเอทีเอ็ม ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เรียบร้อยได้โดยง่าย...เพียงแค่เรียกหา "เอ็นดัล" เพราะมันสามารถทำทุกอย่างได้ดีจนคุณต้องทึ่ง ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าตูบแสนรู้ตัวนี้ ยังเคยช่วยชีวิตเจ้านายจากอุบัติเหตุรถชนจนตกจากรถเข็น โดย เอ็นดัล พยายามพยุงเจ้านายขึ้นและทำให้เขาฟื้นมีสติ ก่อนจะไปเห่าเรียกคนมาช่วยกระทั่งเจ้านายของมันปลอดภัย
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ เจ้าเอ็นดัล ได้รับการสรรเสริญจากผู้คนทั่วโลกและได้รับรางวัลเหรียญทอง PDSA Gold Medalตอบแทนความกล้าหาญที่ช่วยชีวิตของเจ้านาย และคอยช่วยเหลือดูแลทุกอย่างไม่เว้นแม้กระทั่งเป็นตัวกลางประสานรอยร้าวระหว่างเจ้านายกับภรรยาสาวให้กลับมาคืนดีกันอีกครั้งได้สำเร็จ
ตลอดช่วงชีวิตกว่า 12 ปี เอ็นดัล ทำหน้าที่ของมันอย่างไม่เคยตกหล่นจวบจนช่วงบั้นปลายของชีวิต มันป่วยด้วยโรคข้อกระดูกและไม่สามารถเดินได้อีกต่อไป อัลเลน พาร์ตัน และภรรยา จึงคอยดูแล เอ็นดัล อย่างดีก่อนมันจะจากไปอย่างสงบในวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ.2551
12. ย่าเหล สุนัขทรงเลี้ยงในรัชกาลที่ 6
ปิดท้ายด้วย สุนัขทรงเลี้ยง ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เรื่องราวของ ย่าเหล ปรากฎให้คนรุ่นหลังได้รับรู้ผ่านอนุสาวรีย์ย่าเหลหน้าพระตำหนักชาลีมงคลอาสน์ ในพระราชวังสนามจันทร์ จังหวัดนครปฐมที่พระองค์ทรงโปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงสุนัขที่ทรงรักเหมือนสหาย
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังดำรงพระยศเป็นพระบรมโอรสาธิราชฯ พระองค์ได้พบกับสุนัขพันธุ์ทาง สีขาวมีแต้มดำ ขนปุย หางเป็นพวง หูตก หน้าตาน่าเอ็นดู ที่เรือนจำจังหวัดนครปฐมก่อนจะทรงนำมาเลี้ยง และพระราชทานนามว่า ย่าเหลซึ่งเป็นชื่อของตัวละครเอกในบทละครฝรั่งเศส (Emile Jarlet)
ตลอด 5 ปี ย่าเหล เป็นที่โปรดปรานอย่างมาก ด้วยความฉลาดแสนรู้และช่างประจบ ประหนึ่งเป็นทหารรักษาพระองค์ ทำให้ข้าราชบริพารบางคนเกิดความอิจฉา และหากใครแต่งกายไม่เรียบร้อยต่อหน้าพระที่นั่ง ย่าเหลก็จะตรงเข้าไปเห่าและกัด สร้างความอับอายและเจ็บแค้นแก่บุคคลผู้นั้นครั้นเมื่อพระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปโดยไม่ได้พา ย่าเหล ไปด้วย ย่าเหลก็มักจะถูกลอบทำร้าย กระทั่งถูกยิงตายในที่สุด
การตายของ ย่าเหล ทำให้ในหลวงรัชกาลที่ 6 ทรงโทมนัสเป็นอย่างยิ่งและได้ทรงพระราชนิพนธ์กลอนไว้อาลัยแก่ ย่าเหล จารึกไว้ข้างอนุสาวรีย์ด้วย
และทั้งหมดนี้ก็คือ น้องหมาชื่อดัง(บางส่วน) ที่มีความโดดเด่น และมีเรื่องราวในตัวเองระดับตำนาน แล้วเพื่อน ๆ ล่ะคะ มีตูบซุป’ตาร์ ในดวงใจตัวไหนกันบ้างเอ่ย ?
