สายสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนไม่ได้มีเฉพาะแค่ในมนุษย์เท่านั้น สำหรับสัตว์มันก็มีความรักและความผูกพันให้แก่กัน จนหลาย ๆ ครั้งเราจะได้เห็นภาพของมิตรภาพที่แสนสวยงามของพวกมัน ไม่ว่าจะสายพันธุ์เดียวกัน หรือต่างสายพันธุ์ก็ตามที่
อาสาสมัครของสถานสงเคราะห์แห่งนี้ ได้อุทิศเวลาของพวกเขาในการออกไปช่วยเหลือสุนัขที่โดนทำร้ายรังแกจากที่ต่าง ๆ รวมทั้งช่วยชีวิตพวกมันมาจากการถูกนำไปการุณยฆาต ในกรณีที่พวกมันโชคร้ายไม่มีคนรับไปเลี้ยง จนเมื่อปี 2556 ทางอาสาสมัครได้ช่วยเหลือเจ้าเมอร์ริล และเจ้าทาโก้มาพร้อมกัน และหลังจากนั้นทั้งคู่ก็อยู่เคียงข้างกันมาตลอด ไม่เคยแยกจากกันไปไหนเลย
โดยครั้งหนึ่งเจ้าเมอร์ริลเคยป่วยโรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ และจำเป็นต้องผ่าตัดรักษา เจ้าทาโก้ก็จะมีอาการเป็นกังวลตลอดเวลา และภายหลังจากเจ้าเมอร์ริลผ่าตัดเสร็จ ทางเจ้าหน้าที่ก็จำเป็นต้องจับทั้งคู่แยกกัน เพื่อให้อาการของเจ้าเมอร์ริลฟื้นตัวได้เร็ว ทว่ามันกลับกลายเป็นเรื่องยากและลำบากใจมาก เจ้าเมอร์ริลและเจ้าทาโก้เอาแต่ร้องหากัน จนในที่สุดทางอาสาสมัครต้องยอมพาเจ้าทาโก้ไปอยู่กับเจ้าเมอร์ริลในห้องพักฟื้นด้วย
ด้วยความที่พวกมันผูกพันกันมากและไม่ยอมแยกห่างกัน ทำให้หลาย ๆ ปีที่ผ่านมา พวกมันไม่สามารถหาครอบครัวใหม่ได้ เนื่องจากครอบครัวส่วนใหญ่ไม่ต้องการรับพวกมันไปเลี้ยงพร้อมกัน โดยเจ้าเมอร์ริลจะมีผู้ที่สนใจมากกว่าเพราะยังอายุน้อย ในขณะที่เจ้าทาโก้ซึ่งมีอายุมากแล้ว ไม่ค่อยมีคนสนใจที่จะรับไปเลี้ยง
จนล่าสุด เมื่อชายรายนี้ได้เข้ามาถูกชะตากับเจ้าเมอร์ริลและประสงค์ที่จะรับมันไปเลี้ยง หลังเขากรอกเอกสารเสร็จ ก็เตรียมที่จะพามันกลับบ้าน แต่ทันทีที่นำเจ้าเมอร์ริลออกมาจากกรง เจ้าทาโก้กลับเอาแต่ร้องครวญครางไม่หยุด จึงทำให้เขาเกิดความสับสน ทางอาสาสมัครจึงเล่าเรื่องราวของมันทั้งคู่ให้กับเขาฟัง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจ ไม่พาเจ้าเมอร์ริลไป ให้พวกมันทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันที่นี่ และเลือกสุนัขตัวใหม่ไปแทน
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ในที่สุดทาง โจดี้ อาสาสมัครรายหนึ่งจึงตัดสินใจที่จะเลี้ยงพวกมันทั้งคู่ไว้เอง จนกว่าพวกมันจะเจอครอบครัวที่ต้องการมันทั้งคู่พร้อมกัน โดยโจดี้ได้อัปเดตเรื่องราวของเจ้าเมอร์ริลและทาโก้ ผ่านโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้ง กระทั่งในที่สุดได้มีครอบครัวใจดีจากเมืองแซนโฮเซ พบเห็นเข้า และพวกเขาตกหลุมรักพวกมันทั้งสองจริง ๆ ต้องการที่จะรับพวกมันไปอยู่ด้วยทั้งคู่
ด้วยความที่เจ้าทาโก้อายุเยอะแล้ว ทางครอบครัวก็เผื่อใจว่ามันอาจจะไม่กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม แต่เขาก็ให้โอกาสมันได้สู้เพื่อมีลมหายใจต่อ และที่สำคัญเพื่อเพื่อนรักอย่างเจ้าเมอร์ริล โดยหลังจากรักษาเจ้าทาโก้ก็เริ่มอาการทรงตัว ไม่เสี่ยงเกิดหัวใจล้มเหลวแล้ว แต่ทั้งนี้มันก็ยังมีปัญหาเกี่ยวกับการหายใจ และต้องรับยาอยู่
แม้จะเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อเจ้าทาโก้ได้อยู่กับเจ้าเมอร์ริล มันก็ดูไม่เหมือนกับสุนัขป่วย มันเล่นกับเจ้าเมอร์ริลอย่างร่าเริงและสนุกสนาน ถึงแรงจะสู้เจ้าเมอร์ริลไม่ได้ก็ตาม และที่เห็นและสัมผัสได้ชัดเจนคือ มันมีความสุขอย่างที่สุดท่ามกลางเพื่อนรักและครอบครัวที่แสนอบอุ่น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Merrill & Taco