วิธีการพาน้องหมาไปบริจาคโลหิต (Dogazine)
สุนัขก็มีความต้องการโลหิตเพื่อต่อชีวิตไม่ต่างจากมนุษย์ ผิดกันตรงที่เขาร้องขอเองไม่ได้ และต้องรอมนุษย์ผู้ใจบุญจูงสุนัขตัวที่แข็งแรงมาบริจาคเลือดให้ธนาคารเลือดสุนัข หรือบริจาคตามโรงพยาบาลสัตว์
ทั้งนี้ ต้องบอกก่อนเลย่า การเจาะเลือดของสุนัขนั้น ไม่เหมือนกับคนที่เจาะผ่านแขน แต่เขาจะต้องเจาะผ่านลำคอ เพราะฉะนั้น จึงไม่เหมาะกับสุนัขตัวเล็ก ๆ หรือหมากระเป๋า เพราะนอกจากจะให้เลือดไม่พอแล้วอาจเป็นอันตรายต่อน้งอหมาอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าทุกคนจะแสดงความใจบุญด้วยการพน้องหมาไปบริจาคเลือดได้ เพราะทางเจ้าหน้าที่ คุณหมอและคุณพยาบาลเขาได้กำหนดเกณฑ์เอาไว้มากมายสำหรับสุนัขที่จะมาบริจาคเลือด จึงขออ้างอิงจากเกณฑ์ของโรงพยาบาลสัตว์เกษตรศาสตร์ ดังนี้
1. สุนัขหรือแมวจะต้องมีสุขภาพดี อายุตั้งแต่ 1-6 ปี ไม่จำกัดเพศและพันธุ์
2. น้ำหนักมากกว่า 20 กิโลกรัม ในสุนัข และมากกว่า 5 กิโลกรัม ในแมว
3. มีประวัติการทำวัคซีนครบ
4. ปราศจากโรคติดต่อทางเลือด เช่น โรคพยาธิเม็ดเลือด โรคแท้งติดต่อในสุนัข โรคพยาธิหนอนหัวใจ และโรคติดเชื้อไวรัสในแมว เป็นต้น
5. ไม่เคยได้รับการผ่าตัดใหญ่ในระยะ 1-2 เดือน
6. ไม่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรง กรณีที่มีโรคประจำตัวโปรดแจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนบริจาค
7. ในกรณีที่ทำวัคซีนประจำปี ควรเว้นระยะเวลาอย่างต่ำ 3 สัปดาห์ ก่อนนำสุนัขมาบริจาค
8. ไม่มีเห็บ หมัด หรือโรคผิวหนัง
9. สุขภาพฟันดี ไม่มีคราบหินปูน
10. ในการบริจาค 1 ครั้ง จะเก็บเลือดได้ประมาณ 350 มิลลิลิตร ซึ่งเท่ากับ 1 ยูนิต โดยปกติสัตว์เลี้ยงสามารถให้เลือดได้ถึง 10-20 มิลลิลิตรต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม และสามารถบริจาคได้ทุก ๆ 5 เดือน
น้องหมาของใครที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กล่าวมา ก็อย่ารอช้า พาเขาไปบริจาคเลือดกันเถอะค่ะ เพราะเลือดของน้องหมาที่บริจาคไป สักวันหนึ่งอาจเป็นทางรอดสุดท้ายให้น้องหมาแสนรักของใครสักคนด้วย
อ้อ...ให้เลือดเสร็จแล้ว อย่าลืมพาน้องหมาไปประกวดสุนัขสุขภาพดีด้วยนะคะ ก็ผ่านเกณฑ์หลายข้อขนาดนี้ อาจได้ทั้งโล่และใบประกาศเกียรติคุณกลับบ้านให้ชื่นใจ (หุหุ)
รวมเรื่องสัตว์เลี้ยง ทั้ง สุนัข แมว ปลา ฯลฯ พร้อมวิธีดูแลสัตว์เลี้ยง คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก