เรื่องของ สุนัข Shetland Sheepdog

เรื่องของ Shetland Sheepdog (Thailand Pet Journal)
โดย ภาณุวัฒน์ อเนกพิพัฒน์

          จากนี้เป็นต้นไปจะขอนำเพื่อน ๆ เดินทางย้อนเวลากลับเข้าไปในอดีต เดินทางกลับไปสู่โลกของสายพันธุ์สุนัขที่น่าทึ่ง 2 สายพันธุ์ สุนัขที่อาจเป็นภาพฝันของใครหลาย ๆ คนจนถึงทุกวันนี้ สุนัขผู้มีความสามารถที่หลากหลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ สุนัขมหัศจรรย์ และมีจุดเด่นที่น่าค้นหา ซึ่งทำให้ใครหลายคนกลายมาเป็นคนรักสุนัขในทุกวันนี้

          และพวกเค้าจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเจ้า เชทแลนด์ ชีพด็อก (Shetland Sheepdog) หรือ เชลตี้ (Shetie) และ รัฟ คอลลี่ (Rough Collie) "เจ้าชาย และเจ้าหญิงในชุดคลุมยาว ที่แสนสง่างาม"

          โดยในบทความนี้ จะพาไปรู้จักกับที่มาของ เชลตี้ หรือเจ้าพวก เชทแลนด์ ชีพด็อก ว่าพวกเขามีที่มาที่ไปอย่างไรกัน ซึ่งหลาย ๆ ตำรามีการให้ข้อมูลที่แตกต่างกันออกไป แต่สามารถสรุปได้ ดังนี้

          ท้าวความย้อนไปถึงเมื่อครั้งที่ผู้คนชาวสก็อตแลนด์ส่วนหนึ่ง ได้ทำอาชีพเกษตรกรรม และเลี้ยงปศุสัตว์ พวกเขาได้ใช้สุนัขพันธุ์ คอลลี่ พื้นเมือง (Mainland Working Collie) ในการต้นและดูแลฝูงปศุสัตว์ของตน ซึ่งสุนัขพันธุ์นี้มีลักษณะคล้ายคลึงกับ สุนัขพันธุ์ บอร์เดอร์ คอลลี่ ในปัจจุบันมาก เมื่อครั้งหนึ่งมีเหตุให้ผู้คนกลุ่มดังกล่าวต้องย้ายถิ่นฐานของตนจากแผ่นดินใหญ่ของสก็อตแลนด์ มาอยู่บนเกาะเชทแลนด์ (Shetland Island) ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของหมู่เกาะในสก็อตแลนด์ และใหญ่เป็นอันดับ 5 ในหมู่เกาะอังกฤษ

          พวกเขาได้นำสุนัขใช้งานพันธุ์ คอลลี่พื้นเมืองติดเรือมายังเกาะแห่งนี้ด้วย และต่อมาสุนัขดังกล่าวของชาวสก็อตแลนด์นั้น ก็ได้เกิดไปปิ๊งรักกับสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนเกาะเซทแลนด์ โดยสุนัขพื้นเมืองดั้งเดิมที่อาศัยอยู่บนเกาะเชทแลนด์นั้นมีรูปลักษณะคล้ายคลึงกับสุนัขในกลุ่มสายพันธุ์สปิตซ์ (Spitz Type) และมีส่วนผสมของสายพันธุ์ ไอซ์แลนด์ดิก ชีพด็อก อยู่ด้วย ทำให้สุนัขพื้นเมืองที่กล่าวมานั้น มีลักษณะเป็นสุนัขขนาดเล็ก มีจุดเด่นคือ มีความเฉลียวฉลาดมาก อีกทั้งยังมีขนที่ยาวและสวยงาม

          เมื่อสุนัขทั้งสองสายพันธุ์ได้มีการผสมข้ามสายพันธุ์กันเกิดขึ้น ทำให้เกิดสุนัขใช้งานรูปแบบใหม่ขึ้นมาบนเกาะเชทแลนด์ในเวลานั้น

          ปัจจุบันสนุัขสายพันธุ์พื้นเมืองของเกาะเชทแลนด์นั้นได้สูญพันธุ์ไปแล้ว ผู้คนที่ประกอบอาชีพปศุสัตว์บนเกาะเชทแลนด์จึงได้นำเอาสุนัขพันธุ์ บอเดอร์ คอลลี่ มาใช้งานแทน ขณะเดียวกันสุนัขสายพันธุ์เชทแลนด์ ชีพด็อก ก็ได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์ขึ้นมาใหม่ แต่ก็ไม่ได้ถูกนำมาใช้งานต้นฝูงสัตว์บนเกาะเชทแลนด์อีกเลย

          หลังจากเกิดสุนัขใช้งานต้อนฝูงสัตว์รูปแบบใหม่จากการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างสุนัขพื้นเมืองดั้งเดิมของเกาะเชทแลนด์ กับสุนัขคอลลี่พื้นเมืองจากสก็อตแลนด์ขึ้แล้วนั้น สุนัขรูปแบบใหม่ดังกล่าวก็ได้เดินทางอพยพไปยังแผ่นดินอังกฤษ และก็ได้ไปหลงรักชอบพอกับสุนัขพันธุ์แท้อย่าง คอลลี่ขนหยาบ (Rough Collie) และเกิดการผสมข้ามสายพันธุ์อีกครั้ง และหลังจากนั้นก็ได้สุนัขพันธุ์ผสมเจเนอเรชั่นที่ 3 ออกมา และก็ได้ไปผสมข้ามสายพันธุ์กับสุนัขพันธุ์อื่น ๆ อีกมากมายบนแผ่นดินอังกฤษ


          และคาดว่ามีความเป็นไปได้มากที่จะมีสายเลือดของ บอเดอร์ คอลลี่ ผสมอยู่ด้วย ผลจากการผสมผสานดังกล่าว ทำให้เกิดสุนัขพันธุ์ผสมสายพันธุ์ใหม่ขึ้นมา โดยแรกเริ่มนั้น พวกเขาเป็นสุนัขพันธุ์ผสมขนาดเล็ก มีความสูงเพียง 8-10 นิ้วเท่านั้น มีขนาดกะทัดรัด คล่องแคล่ว ว่องไว และมีความเฉลียวฉลาดมาก สามารถเชื่อฟังคำสั่งได้เป็นอย่างดี และเป็นสุนัขใช้งานที่แสนวิเศษ

          ในช่วงก่อนศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงสุนัขสายพันธุ์ที่ได้มาใหม่นี้เพิ่มขึ้น โดยผสมสายพันธุ์ใหม่นี้เข้ากับ คอลลี่ขนหยาบ ซึ่งจากการผสมกลับเข้าหาสายพันธุ์คอลลี่ ก็เพื่อที่จะรักษาไว้ซึ่งรูปแบบและลักษณะของสายพันธุ์ ซึ่งแม่พันธุ์ สุนัข เชทแลนด์ ชีพด็อก ระดับแชมป์ของสมาคมอเมริกัน ตัวแรกนั้น เป็นสุนัขคอลลี่ขนหยาบเพศเมีย สายพันธุ์ดั้งเดิม

          ก่อนปี 1900 James Loggie ได้นำสุนัขคอลลี่ขนาดเล็ก ออกมราโชว์ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก และผู้คนก็ได้รู้จักกับสุนัขสายพันธุ์ใหม่นี้ในนามของ สุนัขพันธุ์ เชทแลนด์ คอลลี่ แต่เนื่องด้วยกลุ่มบรีดเดอร์ผู้เพาะสุนัขสายพันธุ์คอลลี่ ได้มีข้อโต้แย้ง และคัดค้านในชื่อของสุนัขสายพันธุ์ใหม่นี้อย่างมากมาย จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อของ เชทแลนด์ คอลลี่ มาเป็น เชทแลนด์ ชีพด็อก และนี่คือ ต้นกำเนิดของสายพันธุ์สุนัข เชทแลนด์ ชีพด็อก ในปัจจุบัน

          สำหรับ สุนัข เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอังกฤษ ในปี 1909 เป็นสุนัขเพศเมีย ชื่อ Badenock Rose และ เชทแลนด์ ชีพด็อก ตัวแรกที่ได้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมสุนัข ประเทศอเมริกา ในปี 1911 คือ Lord Scott

          เป็นอย่างไรกันบ้างกับ ประวัติความเป็นมาของ เชทแลนด์ ชีพด็อกที่นำมาฝากกัน หวังว่าคงทำให้เพื่อน ๆ รู้จักสุนัขพันธุ์นี้กันมากขึ้นนะคะ





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
นิตยสาร Thailand Pet Journal