สำหรับทาสแมวที่รักแมวเป็นชีวิตจิตใจ จากที่เคยเลี้ยงเจ้าเหมียวแค่ตัวสอง ตัว อยู่ ๆ ก็ออกลูกออกหลาน เพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว ทาสแมวอย่างเรา ๆ จะเอาไปทิ้งก็ทำไม่ลง ดังนั้นเมื่อจำนวนแมวเพิ่มขึ้น พื้นที่สำหรับให้ครอบครัวแมวขนาดใหญ่ได้อยู่อาศัยและปีนป่ายก็คงต้องอึดอัดคับแคบตามไปด้วย
หนึ่งในทาสแมวใจดี ก็เลยขอเสียสละพื้นที่โรงจอดรถเก่า ๆ เพื่อสร้างบ้านแมวให้ครอบครัวเหมียวได้อาศัยอยู่กันซะเลย ว่าแต่จะออกมาเป็นอย่างไรบ้าง ต้องลองไปติดตามกันเลยค่ะ
เมื่อทาสแมวรีโนเวทโรงจอดรถเก่า ๆ ให้เป็นบ้านแมว โดย คุณสหายสี่ตา ด้วยความที่ผมได้เลี้ยงแมวจำนวน 15-16 ตัว โดยเลี้ยงระบบกึ่งปิด-กึ่งเปิด คือ ตอนเช้า ระหว่างวันจะเปิดบ้านให้แมวเดินเข้า-ออก บ้านได้ตามอัธยาศัย ส่วนกลางคืนก็จะต้อนแมวทุกตัวเข้าบ้าน แมวทุกตัวจะนอนในห้องโถง ซึ่งห้องโถงนี้เองจะเป็นที่เก็บข้าวของเครื่องใช้นานาชนิด ตั้งแต่กลองชุดของผม คอมพิวเตอร์พีซีของหลาน ม.1 ชุดโต๊ะหมู่บูชาของคุณแม่ ตู้เก็บหนังสือของแฟน
ท่านที่เลี้ยงแมว หรือไม่เคยเลี้ยงแมวเลย ลองนึกภาพตามไปนะครับ เวลากลางคืนที่จะต้องต้อนน้องแมวทุกตัวเข้ามาอยู่รวมกันในห้องโถงกลางบ้านว่าจะมีความชุลมุนวุ่นวายขนาดไหน และด้วยการที่ระหว่างวันทุกคนในบ้านต้องออกไปทำงาน เราต้องปล่อยให้น้องแมวอยู่อาศัยเดินเข้า-ออก นอนเล่นบนสนามหญ้า ปีนป่ายกำแพงรั้วบ้าน ฯลฯ เลยไม่สามารถควบคุมการใช้ชีวิตของเขาได้ บางครั้งกลับมาบ้านตอนค่ำ ๆ พบว่าแมวของเราโดนแมวจรมากัด ต้องฉีดยาและเย็บไปหลายเข็ม หนนั้นเข็ดมาก ๆ แล้วน้องแมวที่ถูกกัดก็ป่วยตายเพราะถูกกัดด้วย
ผมกับแฟนเริ่มไม่ไหวกับการต้องเป็นห่วงการใช้ชีวิตของแมวในระหว่างวันว่าเขาจะนอนตรงไหน กินอะไรหรือยัง อาหารที่เทไว้ จะโดนแมวจรย่องมากินมั้ย ฯลฯ เลยตัดสินใจว่า ต่อไปเราจะเลี้ยงแมวในระบบปิดละกัน จะได้สบายใจ อุ่นใจ เวลาที่ต้องออกไปทำงาน เลยมองหาทำเลที่จะทำห้องแมวไว้สำหรับเลี้ยงแมว 14-15 ตัวขึ้นไป ลักษณะบ้านครับ บ้านชั้นเดียว อายุประมาณ 12 ปี สร้างจากน้ำพักน้ำแรงสมัยที่เริ่มต้นทำงานใหม่ ๆ อย่างรูปนี้ก็เป็นการให้อาหารแมวที่บ้านครับ ปกติมื้อใหญ่ ๆ ก็เช้าและเย็น ก็จะต้องนำชามข้าวมาวางไว้ให้เค้าทานบริเวณสนามหญ้าครับ อ้อ... สำหรับโรงรถที่จะต่อเติมรีโนเวทจะอยู่บริเวณด้านซ้ายของบ้านนะครับ
นี่ครับ โรงรถเก่า ตามภาพคือเป็นโรงรถที่มีเสา 4 ต้น และคานที่ยึดกับบริเวณหลังบ้านเพื่อมุงกระเบื้องหลังคาโรงรถ เรียกได้ว่าอายุใช้งานโรงรถหลังนี้ก็พร้อม ๆ กับอายุบ้าน ตอนแรกผมและแฟน คิดกันว่าเรามาทำห้องแมวแยกจากตัวบ้านดีไหม เพราะบริเวณบ้านยังเหลือให้ทำได้อีกเยอะ
แต่ได้บทสรุปที่ว่า ต้องการเน้นความประหยัดเป็นอันดับแรก เพราะถ้าทำแยกเป็นหลังไปต่างหาก จะต้องเสียค่าเทปูน หล่อเสา ทำโครงหลังคา มุงกระเบื้องใหม่ทั้งหมด ซึ่งขนาดห้องที่ต้องการคือประมาณ 24 ตารางวาขึ้นไป งบประมาณคงบานปลาย กระทบต่อกำลังซื้ออาหารแมวในระยะยาวแน่ ๆ เลยฟันธงกันว่า "เราจะทำห้องแมวโดยใช้เสา คาน และหลังคาของโรงรถเดิม กินบริเวณยาวไปจนถึงบริเวณหลังบ้าน"
โครงการทำห้องแมวในครั้งนี้ เลือกวิธีจ้างเหมาช่างแถวบริเวณบ้านครับ ช่างคนเดียวกับตอนที่ทำบ้านหลังนี้นั่นเองครับ ขอบข่ายของงานครั้งนี้ผมเป็นผู้ซื้อค่าวัสดุทั้งหมด สำหรับภาคแรงงาน ช่างรับเหมาคิดในราคา 17,000 บาท
ราคาดังกล่าวจะรวมการกั้นห้องแมว ปูพื้นกระเบื้อง เดินสายไฟ และต่อเติมในส่วนของโรงรถใหม่ให้ขยับมาด้านหน้านะครับ ตามภาพ โรงรถอยู่ด้านซ้ายหลังสุดของบ้าน
ผมเน้นประหยัดนะครับ วัสดุไม่ต้องแพงมาก อาหารแมวดี ๆ สำคัญที่สุดสำหรับผมกับแฟน แหะ ๆ อันนี้บริเวณโรงรถครับ วันแรกช่างเริ่มตัดเหล็กเพื่อเชื่อมติดเสา และคาน สำหรับที่จะยึดไม้ฝาที่จะกั้นห้องครับ
เริ่มเล็ง ๆ วัด ๆ ฝั่งที่ช่างกำลังวัดอยู่นี้ ผมตั้งใจจะให้เป็นโซนโชว์เฟอร์นิเจอร์แมว (พูดซะอย่างกับว่ามีเงินซื้อ แหะ ๆ) เพราะประตูเข้าห้องแมวจะเข้าจากด้านนี้ เวลาเปิดเข้าไปก็จะเจอห้องนี้เป็นอันดับแรกครับ
เริ่มติดโครงเหล็กครับ ใช้ไม้ฝาเชอร่าในการกั้นห้องนะครับ เอาสีธรรมชาติสุด ถูกสุด เพราะตั้งใจจะทาสีภายในที่ชอบอีกทีครับ ทางขวาของรูปเริ่มขึ้นโครงและมีการติดบานกระจกไปละครับ มีบานกระจกเก่าอยู่ประมาณ 4-5 ชิ้น เลยจะเอามาประยุกต์ในครั้งนี้ด้วยครับ
ฝั่งซ้ายของห้อง ตรงกับทิศตะวันตก ติดกระจกใสด้วยครับ เพื่อความสว่างของห้องแมวครับ มีต้นไม้ ใบหญ้า มองไปด้านนอกเห็นต้นปาล์ม ให้น้องแมวมองดูนก ดูผีเสื้อจากตรงนี้
ด้านหน้าของห้องแมวครับ เริ่มติดไม้ฝาเสร็จละครับ เหลือช่องสำหรับติดประตู (ตรงนี้จะติดประตูกระจกใสครับ)
ฝั่งซ้ายของห้องแมวจ้า กระจกติดจุดนี้รับรองว่าระหว่างวันไม่ต้องเปิดไฟช่วยเลยล่ะครับ สำหรับหน้าต่างเลือกใช้บานซิงค์มาประยุกต์ทำหน้าต่างครับ (ประหยัดอีกละ) สำหรับช่องหน้าต่างก็จะใช้ตะแกรงลวดปิดกันแมวออกอีกทีครับ
มาดูฝั่งขวาของห้องบ้างครับ เนื่องจากงบประมาณค่าวัสดุเริ่มจะบานปลาย ฝั่งขวาของห้องเลยเลือกที่จะใช้สมาร์ทบอร์ดแทนไม้ฝา เพราะจุดเริ่มต้นตอนแรกตั้งใจจะเน้นโชว์สวยงามตรงฝั่งซ้ายสุด ของห้องอยู่แล้ว อิอิ กระจกที่เหลืออีก 2 ชิ้น ถูกนำมาติดในผนังฝั่งขวาของห้อง ซึ่งตรงกับทิศตะวันออก ตรงกลางห้องติดกระจกในแนวขวาง ส่วนฝั่งซ้ายและขวาติดกระจกใส แสงสว่างส่องถึงทั้งวันแน่นอนครับ
ถ่ายจากมุมทแยง จากบ้านเพื่อนบ้านที่ถัดออกไป 1 หลังครับ ห้องแมวจะอยู่ติดกับบริเวณหลังบ้านเดิม ติดกับรั้วบริเวณบ้านครับ
สีสันเริ่มมาละ สีเขียวทาภายในแบบอีซี่แคร์ ดูแลทำความสะอาดด้วยวิธีเช็ดได้ เหมาะสำหรับการทำความสะอาดครับ สีโทนนี้แฟนเป็นคนเลือก ดูสว่าง สบายตาดีครับ
และแล้วฝั่งซ้ายสุดของห้อง ที่ตั้งใจไว้เป็นจุดโชว์ก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง บันไดกับกล่องแมว ไปหามาจากร้านเฟอร์นิเจอร์ครับ กล่อง 5 ใบ บันไดอีก 15 ขั้น
ทั้งหมด 800 บาทเอง ถูกจัง ถูกกว่าที่คิดไว้ แต่ขาเหล็กฉากสำหรับยึดบันไดและกล่องแมวนี่สิครับ 20 คู่ ปาไป 700 กว่าบาท โอว... แพงกว่าที่คิดนะเนี่ย
นี่ไงครับ ทางเข้าสู่ห้องแมว ภายในและภายนอกใช้สีเดียวกัน ดูสดใสสบายตาครับ
เวลาทาสแมวเลิกงานกลับมา จอดรถตรงนี้ปุ๊บ ก็จะเดินไปจ๊ะเอ๋ลูก ๆ ได้ทันที
ผนังด้านในฝั่งประตูเข้าห้องแมวครับ ตอนนี้ด้านนอกก็ทำหลังคาโรงรถที่ต่อเติมเพิ่มไปใหม่เสร็จละ ร่มรื่นดีจังครับ สำหรับโรงรถที่ต่อเติมใหม่นี้ ใช้วิธีขึ้นเสาเหล็ก 2 ต้น และต่อเติมหลังคาเมทัลชีทมานะครับ เฉพาะในส่วนของโรงรถค่าวัสดุหมดไปประมาณ..
1. เหล็กเสา เหล็กเส้น ฯลฯ 2,700 บาท
2. แผ่นเมทัลชีท 2,500 บาท
ตรงนี้เป็นผนังตรงกลางนะครับ กระจกใส ๆ ติดแนวยาว ๆ แสงสว่างเข้าดูปลอดโปร่งดีครับ เวลากลางคืนจะมีแมวจรเดินมาเยี่ยมแมว หึหึ ต่อไปคงได้แต่มอง หมดสิทธิ์มายุ่งกับลูก ๆ ของผม
โซนกลางห้องอีกสักภาพครับ ผมจะไม่ทำผ้าม่านติดนะครับ อยากให้ระหว่างวันแสงสว่างเข้าเต็มที่ เพราะที่ผ่านมาเราเลี้ยงระบบเปิดกึ่งปิด น้องแมวชอบธรรมชาติมาก ๆ อยากให้เขาดูเหมือนใกล้ชิดธรรมชาติตลอด
อันนี้เป็นประตูหลังบ้านครับ นอกจากจะสามารถเข้าห้องแมวได้จากทางประตูด้านหน้า ก็จะเข้าไปเยี่ยมน้องแมวได้จากทางตรงนี้ ประตูนี้จะทะลุมาจากห้องครัวครับ เวลาคิดถึงเด็ก ๆ กลางดึกก็เดินไปหาเค้าจากประตูนี้ หรือเวลาเล่นกับเขาจนเหนื่อยแล้ว ก็จะเดินกลับห้องนอนจากประตูนี้เช่นกันครับ
เห็นผนังว่าง ๆ เป็นไม่ได้ จับติดกล่องและบันไดซะให้หมด โซนขวาของห้องอีกสักภาพครับ
ฝั่งซ้ายของห้อง ตรงหน้าต่างที่เอาบานซิงค์มาประยุกต์ ตรงนี้รับลมดีทีเดียวครับ เอาบันไดยาว ๆ มาติดให้น้องแมว เผื่อให้เขาชมวิวด้านนอก
พอช่างติดกล่องแมวทุกจุดเสร็จ ก็ทดสอบเอาแมวที่เจ้าเนื้อที่สุดของ บ้านมาทดสอบความแข็งแรง ผมอุ้ม เขากุย แมวร่างอวบน้ำหนัก 5 กิโลกว่า มาหย่อนลงบนบันไดแล้วสังเกต ใหม่ ๆ เขากุยตื่นกลัว คงจะงง เอาผมมาวางแปะตรงนี้ทำไม สีผนังก็แสบตาพิกล
เขากุยยังตื่นกลัวกับห้องใหม่ครับ จากภาพด้านบน อยู่ดี ๆ ก็กระโดดมุดเข้าไปในกล่องแมวด้านขวาสภาพออกมาแบบนี้ ต้องเรียกชื่อเพื่อปลอบเขาไม่ให้กลัว เขากุยนอนมุดหลบในนั้นแป๊บหนึ่งครับ สักพักก็ม้วนตัวเอาหัวออกมาอีกด้าน แล้วก็ค่อย ๆ กระโดดลงบันไดทีละขั้นลงมาดมสำรวจทั่ว ๆ ห้องแมวเป็นตัวแรก
ทำบันไดกับกล่องไว้ซะเยอะเลย แต่หลังจากเปิดให้แมวเข้าอาศัยในวันแรก ยังคงได้รับการหมางเมินจากคุณ ๆ ท่าน ๆ แมวทั้งหลายอยู่ ใช่ครับ อะไรกลม ๆ แมวล่ะช้อบ ชอบ ผมเอาถาดดินเผากับขันโตก ไปวางตามจุดต่าง ๆ ในห้องแมว ซึ่งเป็นที่นอนเก่าของเขา ให้เขานอนกันให้ชินก่อน เห็ดเผาะ ลูกลองโดดไปเล่นบนบันไดใกล้ ๆ นั่นหน่อยสิ เอิ่ม......... เห็ดเผาะไม่แยแส ครับ
ผมและแฟน เริ่มเอาน้องแมวทั้ง 15 ตัวเข้าอยู่บ้านใหม่ วันแรกเมื่อคืนวันศุกร์ 13 ที่ผ่านมา หลาย ๆ ตัวยังคงตื่นกลัว ไม่ชินกับที่ใหม่ ร้องแง้ว ง้าว จะออกให้ได้ ต้องเอาขนมแมวเลียมาล่อ เอาขนมมาให้เขาทาน ให้ชินกับการอยู่บ้านใหม่ ขณะกำลังง่วนอยู่กับการปลอบเด็ก ๆ ไม่ให้กลัวบ้านใหม่นั้น
หันควับไปเจอยัยจี้ นอนฟินอยู่บนกล่องแมวเป็นตัวแรก เลยหยิบตุ๊กตาจี้จังมาเป็นพร็อพถ่ายคู่ซะเลย
เห็นน้องแมวชอบสิ่งของที่เราประดิษฐ์แปะไว้ที่ข้างฝาแบบนี้ก็ดีใจครับ เพราะที่ผ่านมาแมวที่บ้านจะคุ้นชินกับการปีนป่ายต้นไม้ ขึ้นต้นมะขามบ้าง ต้นปาล์มบ้าง ไปยืนมองดวงจันทร์บนรั้วบ้านบ้าง ต่อไปเขาจะต้องอยู่ในห้องจำกัด เลยต้องหาอะไรพวกนี้มาแทนครับ นั่นไงว่าไม่ทันขาดคำ เจ้าโคโคโระ ขึ้นไปนอนฟินบนกล่องบนสุดเลยครับ หุหุ เห็นเขาชอบก็ดีใจ
เห็ดหอม แมวรุ่นเด็กของบ้าน ยังไม่กล้าขึ้นที่สูงมากนัก ก็ยืนเลียตัวอยู่ที่ชั้นล่าง ๆ ไปก่อน
ชั้นวางแมวตรงริมกระจกใส ๆ ก็เป็นที่ทานแคทนิปไป อย่ากลิ้งเยอะนะ เดี๋ยวจะร่วงลงมา เห็ดเผาะ
กระจกใส ๆ ด้านข้างซ้ายของห้องได้ใช้ประโยชน์ครับ ตอนค่ำ ๆ มาจะมีพวกแมลง พวกมดอะไร แถวต่างจังหวัดมีเยอะครับ น้องแมวก็มองผ่านกระจกใสไปได้ เพลินไปอีกแบบ
สำหรับโซนบันไดแมว เห้งเจีย กับสาวเนโกะ กำลังแต่งตัวเลียแผล็บ ๆ อย่างอารมณ์ดีครับ
สรุปค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ นะครับ 1. ค่าแรง 17,000 บาท ระยะเวลาที่ทำทั้งหมด 9 วันเต็ม
2. ค่าปูนสำหรับเทพื้นปูกระเบื้อง ประมาณ 2,200 บาท
3. กระเบื้องปูห้องแมว ตร.ม.ละ 172 บาท ใช้ทั้งหมด 40 ตร.ม. รวม ๆ 6,880 บาท
4. เหล็กทุกไซส์ทุกขนาด ประมาณ 12,000 บาท
5. สีทาภายในขนาด 9 ลิตร ยี่ห้อ delux กระป๋องละ 2,026 บาท ใช้ทั้งหมด 2 กระป๋อง รวมประมาณ 4,052 บาท
6. ระบบไฟฟ้า สายไฟ หลอดไฟ สวิตช์ ปลั๊ก ลูกกลิ้งทาสี ฯลฯ ประมาณ 1,800 บาท
7. กล่อง+บันได+เหล็กฉาก ประมาณ 1,500 บาท
8. ทรายก่อสร้าง 2,100 บาท
9. ไม้ฝาเชอร่า + สมาร์ทบอร์ด ประมาณ 5,000 บาท
10. ประตูพีวีซีเบา 750 บาท
11. ซิงค์หน้าต่าง 590 บาท
12. ตะแกรงตาข่าย 110 บาท
13. พัดลมผนัง 1 ตัว ราคา 990 บาท พัดลมดูดอากาศ 1 ตัว 998 บาท
14 หญ้าเทียม 590 บาท เก้าอี้ โต๊ะญี่ปุ่น พรม ประมาณ 1,500 บาท
13. จำไม่ได้ว่ามีอะไรอีก เดี๋ยวถ้าไปเปิดสมุดจดแล้วจะมาอัพเดทเพิ่มเติมอีกครั้งครับ
สำหรับ ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ก็ตามรายการข้างบนครับ ส่วนฝ้าเพดาน ตอนแรกว่าจะติดนะครับ แต่มาดูสมุดทำวัคซีนเด็ก ๆ แล้ว ถึงคิวต้องทำวัคซีนเด็ก ๆ อีกเยอะเลยยังไม่ทำฝ้าเพดานตอนนี้ครับ