เด็กอ่อน เข้าใจอารมณ์ของสุนัข

เด็กอ่อน เข้าใจอารมณ์ของสุนัข (ข่าวโลกสัตว์เลี้ยง)

          เรามักจะเข้าใจกันไปเองว่าเด็กทารกตัวเล็ก ๆ มักจะไม่เข้าใจถึงสิ่งรอบข้าง แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กทารกสามารถที่จะรับรู้และซึมซับอารมณ์ของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี นอกจากซึมซับอารมณ์ของคนรอบข้างได้แล้ว ยังมีงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า เด็กอ่อนสามารถเข้าใจความหมายของการเห่าที่แตกต่างกันของสุนัข แม้ว่าจะแทบไม่เคยใกล้ชิดสุนัขมาก่อน

          เด็กทารกอายุ 6 เดือน สามารถจับคู่ระหว่างเสียงคำรามแบบโกรธและเสียงเห่าแบบเป็นมิตรเข้ากับภาพสุนัขที่แสดงให้เห็นถึงอาการขู่และอาการเป็นมิตร การค้นพบใหม่มีพื้นฐานมาจากการศึกษาจากห้องทดลอง มหาวิทยาลัย Brigham Young University ที่แสดงให้เห็นว่า เด็กทารกสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของอารมณ์ในดนตรีของบีโธเฟนได้

          แม้ว่าการจับคู่ระหว่างสุนัขและเด็กทารกจะดูไร้สาระ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การทดลองในลักษณะนี้ช่วยให้เราสามารถเข้าใจการเรียนรู้อันรวดเร็วของเด็กทารกได้ เป็นเวลานานก่อนที่พวกเขาเรียนรู้เกี่ยวกับการพูด เด็กทารกได้เรียนรู้และตอบสนองกับลักษณะของสิ่งที่เกิดขึ้นรอบ ๆ ตัว



          Ross Flom ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัย BYU ซึ่งเป็นผู้นำทีมวิจัย กล่าวว่า "อารมณ์คือสิ่งแรกที่เด็กทารกเรียนรู้ในโลกสังคม"

          Flom และนักศึกษาสองคนจากมหาวิทยาลัย BYU ได้รายงานการค้นพบในหัวข้อ "เด็กทารกที่น่าทึ่ง" ในวารสาร Developmental Psychology "เราได้เลือกสุนัขเพราะว่าพวกมันเป็นสัตว์ที่มีความสามารถในการสื่อสารมาก ไม่ว่าจะเป็นท่าทาง หรือลักษณะของการเห่า"

          ในการทดลอง เด็กทารกจะเห็นภาพที่ต่างกันสองภาพของสุนัขตัวเดียวกัน ภาพหนึ่งอยู่ในท่าทางก้าวร้าว ส่วนอีกภาพอยู่ในทางทางเป็นมิตร หลังจากนั้น นักวิจัย ได้เปิดคลิปเสียงในลำกับที่ไม่ได้เรียงกันของเสียงสุนัขที่เห่าแบบเป็นมิตรและแบบก้าวร้าว

          "พวกเขามีโอกาสเพียงครั้งเดียว เพราะเราไม่อยากให้พวกเขาเรียนรู้ไประหว่างที่ฟังและคิดออก" ระหว่างที่เปิดคลิปเสียง เหล่าทารกอายุ 6 เดือน ได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการจ้องมองภาพที่คู่กัน เด็กทารกที่แก่กว่าโดยส่วนใหญ่จะสามารถจับคู่ได้ทันทีหลังจากการมองครั้งแรก

          ผู้ร่วมวิจัย Dan Hyde และ Heather Whipple Stephenson ผู้ทำการทดลองในระหว่างการเรียนปริญญาตรี กล่าวว่า ไม่พบเด็กทารกที่เกิดอาการหงุดหงิด "ส่วนมากพวกเขาสนุกไปกับมัน พวกเขาที่เหลือก็แค่มองเฉย ๆ" เด็กทารกค่อนข้างให้ความร่วมมือ ซึ่งประสบการณ์จากการวิจัยนี้ ได้ช่วยให้ Hyde และ Stephenson ใช้เป็นข้อมูลในการเรียนต่อในระดับสูงขึ้น ปัจจุบัน Hyde และ Stephenson กำลังศึกษาที่มหาวิทยาลัย Harvard ระดับปริญญาเอก สาขาจิตวิทยาการพัฒนา และผู้ร่วมวิจัยอีกคน Heather Whipple Stephenson กำลังจะจบปริญญาโทสาขาจิตวิทยาการศึกษาจากมหาวิทยาลัย University of Minnesota





ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, moomsci.com