อาร์เธอร์ สุนัขจรจัดตามติดทีมกีฬาเอ็กซ์ตรีมบุกป่า 700 กม. สุดท้ายเลยรับกลับไปเลี้ยง
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Team Peak Performance
สุนัขจรจัดตามติดทีมนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมบุกป่า 700 กิโลเมตร ร่วมลำบากไม่ทิ้งกันจนชนะใจ สุดท้ายเลยรับกลับไปเลี้ยง
วันที่ 23 พฤศจิกายน 2557 เว็บไซต์เดลี่เมล ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดประทับใจที่เกิดขึ้นกับทีมนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมจากประเทสสวีเดน ที่ได้พบเพื่อนแท้ 4 ขา อย่างที่ไม่คาดคิด ระหว่างเดินทางไปร่วมแข่งขันรายการระดับโลกที่ประเทศเอกวาดอร์ และด้วยสายสัมพันธ์ที่ถักทอขึ้นระหว่างการแข่นขันอันยากลำบากนี้เองที่ให้หนึ่งในสมาชิกของทีม ตัดสินใจรับเพื่อนใหม่ของเขาบินข้ามประเทศมาอยู่ด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะที่ มาคาเอล ลินด์นอร์ด และทีมของเขาเดินทางไปแข่งรายการ Adventure Racing World Championship ที่ประเทศเอกวาดอร์ และในขณะที่เข้าสู่รอบสุดท้ายซึ่งนักกีฬาทั้ง 4 จะต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไปเป็นระยะทางเกือบ 700 กิโลเมตรนี้เอง พวกเขาก็ได้พบกับเพื่อนใหม่ที่ไม่คาดคิด เมื่อมาคาเอลสังเกตเห็นสุนัขจรจัดตัวหนึ่งจ้องมองมายังเขาระหว่างที่ทั้ง 4 คนกำลังแวะพักรับประทานอาหาร ด้วยความสงสารเขาจึงแบ่งลูกชิ้นเนื้อให้มันลูกหนึ่ง โดยไม่ได้คิดอะไรมาก
ทว่านั่นได้กลายมาเป็นจุดเริ่มต้น เพราะนับตั้งแต่นั้นสุนัขจรจัดตัวนี้ก็ได้ติดตามทีมนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมทีมนี้ไปในทุก ๆ ที่ และร่วมฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการพายเรือคายัก บุกป่าดงดิบ ลุยโคลน หรือไม่แต่การปีนเขา ซึ่งแม้ว่าสมาชิกของทีมจะพยายามแยกตัวออกจากสมาชิกใหม่ที่ไม่คาดคิดเพื่อความปลอดภัยของมันเอง แต่สุนัขจรจัดตัวนี้ก็ไม่ยอมไป
มาคาเอลยังเผยด้วยว่า ในขณะที่ทีมของเขาจะต้องพายเรือคายัก ผู้จัดการแข่งขันก็ได้เตือนทีมเขาแล้วว่าไม่สามารถนำสุนัขตัวนี้ร่วมทางไปด้วยเพราะเป็นห่วงความปลอดภัยของมัน แต่แล้วสุนัขตัวนี้กลับกระโจนตัวลงน้ำ ว่ายเคียงข้างเรือคายักของพวกเขามา นั่นทำให้เขาไม่อาจทำใจแข็งได้อีกต่อไป จำต้องอุ้มสุนัขตัวนี้ขึ้นเรือมาด้วยเพื่อเริ่มภารกิจอันตราย และสมาชิกของทีมก็ได้ตั้งชื่อให้มันว่า อาร์เธอร์
แม้ภารกิจจะหนักหนาขนาดไหนแต่อาร์เธอร์ก็ไม่เคยหวั่น มันทั้งยอมว่ายน้ำ ปีนป่ายขึ้นเขา หรือแม้แต่ลุยโคลนที่สูงเท่าเข่าของมัน ทำให้อาร์เธอร์ชนะใจเพื่อนร่วมทางของมัน การเดินทางหลังจากนั้นทุก ๆ คนได้รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน พวกเขายอมที่จะหยุดพักเมื่ออาร์เธอร์เหนื่อย คอยช่วยอุ้มมันเมื่อติดอยู่ในโคลน รวมไปถึงการแบ่งอาหารกระป๋องให้มัน เนื่องจากอาร์เธอร์ไม่สามารถหาอาหารใด ๆ ในป่าได้
จนกระทั่งการผจญภัยนาน 6 วันสิ้นสุดลง พวกเขาก็ได้พาอาร์เธอร์ที่ร่างกายสะบักสะบอมจากการผจญภัยไปพบสัตวแพทย์ และในช่วงเวลาระหว่างนั้น มาคาเอลก็ตัดสินใจได้ว่าเขาจะไม่ยอมทิ้งอาร์เธอร์ไว้ที่อเมริกาใต้เพียงลำพังแน่นอน จึงได้เดินเรื่องขอใบรับรองจากสัตวแพทย์ จนในที่สุดพวกเขาก็สามารถพามันขึ้นเครื่องบินกลับมายังสวีเดนได้ ท่ามกลางต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนจำนวนมาก
ทั้งนี้สำหรับการแข่งขันดังกล่าว นักกีฬาจะต้องพบกับภารกิจสุดท้าทายทั้งการไต่เขา ปีนหน้าผา ขี่จักรยานขึ้นเขา และพายเรือคายัก โดยจัดแข่งขันที่เอกวาดอร์ ซึ่งมีภูมิภาคหลากหลายภูเขาแอนเดส มหาสมุทรแปซิฟิก และป่าดงดิบอเมซอน ขณะที่มาคาเอลกล่าวทิ้งท้ายว่า เขามาเอกวาดอร์เพื่อหวังชัยชนะจากการแข่งขันชิงแชมป์โลก แต่กลับได้เพื่อนใหม่มาแทน
***หมายเหตุ : อัพเดทข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 13.29 น. วันที่ 27 พฤศจิกายน 2557